เจาะลึกเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

 

เกษตรกรรมไม่เพียงแต่เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ แต่ยังเป็นวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติ สำหรับในประเทศไทยซึ่งเศรษฐกิจพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำเกษตรที่เน้นการใช้สารเคมี ได้สร้างความท้าทายทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของผู้บริโภค และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ "เกษตรอินทรีย์" และ "เกษตรปลอดภัย" ได้กลายเป็นคำตอบสำคัญที่ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่...ในบทความนี้ผมจะพามาสำรวจโลกของสองแนวทางนี้ ทั้งในแง่ข้อดี ข้อจำกัด และผลกระทบต่อสังคมไทยกันนะครับ...

 

เกษตรอินทรีย์ Organic Farming

ความหมายและหลักการ

ประโยชน์ของเกษตรอินทรีย์ Benefits of organic agriculture

ข้อจำกัดของเกษตรอินทรีย์ Limitations of organic agriculture

เกษตรปลอดภัย Safe Agriculture

ความหมายและหลักการ

ประโยชน์ของเกษตรปลอดภัย Benefits of safe agriculture

ข้อจำกัดของเกษตรปลอดภัย Limitations of safe agriculture

กล่าวโดยสรุป

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Bloger   :
    http://www.dolravee.com/
Facebook :    https://goo.gl/qNF1ak
Youtube  :    https://goo.gl/F6d8A4

 

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" เราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

ประยุกต์ 4 ระดับสุขภาพพืช ตามแนวทาง จอห์น เคมป์ฟ (John Kempf)

 

สุขภาพพืชตามแนวคิดของจอห์น เคมป์ฟ (John Kempf) เป็นระบบที่สะท้อนความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างพืช ดิน และระบบนิเวศ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างสมดุลของพืชและชีวิตเกษตรกร ผ่าน 4 ระดับของการพัฒนาสุขภาพพืช แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มผลผลิต แต่ยังวางรากฐานให้กับการเกษตรที่ยั่งยืนและสมบูรณ์แบบในทุกมิติ

ระดับที่ 1 : สุขภาพพื้นฐาน – โภชนาการคือจุดเริ่มต้น

กลยุทธ์สำคัญ

ระดับที่ 2 : การป้องกันโรคเบื้องต้น – พลังงานพืชที่สมดุล

กลยุทธ์สำคัญ

ระดับที่ 3 : การป้องกันเชิงรุก – เสริมสร้างภูมิต้านทานพืช

กลยุทธ์สำคัญ

ระดับที่ 4 : ภูมิคุ้มกันระบบ – สมดุลพืชและระบบนิเวศ

กลยุทธ์สำคัญ

สมดุลพืช สมดุลชีวิต ด้วยศาสตร์ PRM

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ PRM

การประยุกต์พัฒนาสุขภาพพืชทั้ง 4 ระดับ ไม่ได้เพียงแต่เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ แต่ยังสร้างสมดุลที่ยั่งยืนทั้งในระบบนิเวศและชีวิตเกษตรกร ด้วยแนวทางของจอห์น เคมป์ฟ์ และนวัตกรรม PRM เกษตรกรสามารถก้าวสู่การเกษตรที่ตอบโจทย์อนาคต ทั้งในด้านความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหารนั่นเองนะครับผม...

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Bloger   :
    http://www.dolravee.com/
Facebook :    https://goo.gl/qNF1ak
Youtube  :    https://goo.gl/F6d8A4

 

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

ห่มดิน บ่มดิน ศาสตร์ฟื้นฟูดิน เคล็ดลับคืนชีวิตให้ธรรมชาติ

 

การประยุกต์ใช้หลักการฟื้นฟูดินโดยการคลุมดินหรือ "ห่มดิน" ซึ่งเป็นแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงคิดค้นขึ้น เพื่อช่วยฟื้นฟูดินที่เสื่อมสภาพจากการเกษตรและการใช้ดินที่ไม่เหมาะสม สู่การกลับมามีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน การห่มดินไม่ใช่แค่เพียงการคลุมดิน แต่เป็นศิลปะในการฟื้นฟูสุขภาพของดินด้วยวัสดุธรรมชาติที่ช่วยให้การเจริญเติบโตของพืชมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการปกป้องจากความแห้งแล้งและอุณหภูมิที่แปรปรวน การห่มดินจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดูแลธรรมชาติและการเกษตรที่ยั่งยืนนะครับ...

 

ศาสตร์ PRM จัดการดินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออนาคตการเกษตรที่ยั่งยืน
รายการ คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.93


แล้วทำไมเราต้องห่มดิน?

การห่มดินคือกระบวนการคลุมพื้นดินด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ฟางข้าว ใบไม้แห้ง หรือเศษพืชจากการเกษตรเพื่อรักษาความชุ่มชื้น เพิ่มธาตุอาหาร และควบคุมอุณหภูมิของดิน ซึ่งช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง และป้องกันปัญหาที่เกิดจากการขาดแคลนน้ำหรือการกัดเซาะของดิน

ข้อดีของการห่มดินที่เราต้องรู้

1. เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน
วัสดุห่มดินจะย่อยสลายกลายเป็นอินทรียวัตถุที่ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่

2. รักษาความชุ่มชื้นในดิน
ช่วยเก็บรักษาความชื้นในดิน แม้ในช่วงฤดูแล้ง ลดการสูญเสียน้ำและทำให้พืชสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

3. ควบคุมอุณหภูมิของดิน
ลดความร้อนในช่วงกลางวันและรักษาความอบอุ่นในช่วงกลางคืน ช่วยให้พืชไม่เจอกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรง

4. ป้องกันการชะล้างดิน
วัสดุห่มดินช่วยป้องกันการกัดเซาะจากฝนหนักหรือพายุ ลดการสูญเสียหน้าดินและธาตุอาหาร

5. ยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืช  
ช่วยบล็อกแสงแดดจากการงอกของเมล็ดวัชพืช ลดการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช

วัสดุที่ใช้ในการห่มดิน

วัสดุธรรมชาติที่สามารถใช้ในการห่มดินได้แก่ ฟางข้าว ใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง เศษพืชจากการเกษตร รวมถึงปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ช่วยเติมธาตุอาหารให้ดิน

เทคนิคการห่มดิน

1. เตรียมพื้นดินให้พร้อม  
เริ่มด้วยการกำจัดวัชพืชและปรับหน้าดินให้เรียบ เพื่อให้วัสดุห่มดินกระจายได้อย่างทั่วถึง

2. กระจายวัสดุคลุมดินอย่างทั่วถึง  
ใช้วัสดุคลุมดินให้ทั่วแปลงปลูก โดยมีความหนาประมาณ 5-10 เซนติเมตร

3. เติมปุ๋ยธรรมชาติ
การใช้ฟางข้าวหรือใบไม้สามารถเสริมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยในการย่อยสลายวัสดุ


เปลี่ยนชีวิตด้วยการปรุงหมักห่มบ่มดินแบบไร้ขีดจำกัด! | ท่านรอง อนุวัชร โพธินาม


การห่มดินเป็นการใช้ธรรมชาติช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างสมดุลให้กับดิน และเป็นแนวทางที่สำคัญในเกษตรกรรมแบบยั่งยืนที่มีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรต่อไปนี้เรามาเรียนรู้กันนะครับว่า 
วัตถุประสงค์ของ "ห่มดิน" และ "บ่มดิน คืออะไร

การ "ห่มดิน" คือการคลุมผิวหน้าดินด้วยวัสดุธรรมชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

  • ป้องกันการระเหยของน้ำในดิน  
  • ลดการชะล้างหน้าดินจากฝนหรือลม  
  • ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืช  
  • เพิ่มอินทรียวัตถุในดินเมื่อวัสดุสลายตัว  


การ "บ่มดิน" คือกระบวนการเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการเพาะปลูก โดยการใช้วัสดุอินทรีย์หรือสารปรับปรุงดิน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในดินที่เอื้อต่อการเติบโตของพืช  โดยมี วัตถุประสงค์คือ

  • กระตุ้นการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน  
  • ปลดปล่อยธาตุอาหารให้พร้อมสำหรับพืช  
  • เพิ่มความร่วนซุยและโครงสร้างดินที่ดี  
  • ฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมและปรับสมดุลค่า pH  


ขั้นตอนและเทคนิคการห่มดิน และ การบ่มดิน

เทคนิคการห่มดิน

1. เตรียมวัสดุคลุมดิน เลือกวัสดุอินทรีย์ในพื้นที่ เช่น ฟางข้าว ใบไม้แห้ง หรือหญ้าแห้ง  
2. คลุมดินให้ทั่ว วางวัสดุคลุมดินหนาประมาณ 5-10 ซม. เพื่อปกป้องหน้าดิน  
3. ปรับปรุงดิน หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ อาจโรยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกก่อนคลุมดิน  
4. รดน้ำ เพื่อช่วยให้วัสดุคลุมดินคงตัวและเริ่มกระบวนการย่อยสลาย  

เทคนิคการบ่มดิน

1. เตรียมดิน ขุดหรือพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 ซม. เพื่อให้อากาศถ่ายเท  
2. ใส่วัสดุอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือเศษซากพืช  
3. เพิ่มจุลินทรีย์ ใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ (เช่น ไตรโคเดอร์มา หรือ EM) เพื่อช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ
4. คลุมดิน หลังใส่วัสดุอินทรีย์ ควรคลุมดินด้วยฟางหรือใบไม้เพื่อรักษาความชื้น  
5. บ่มดิน ปล่อยดินพักไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและวัสดุที่ใช้)  

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • เลือกวัสดุที่สามารถหาได้ในพื้นที่เพื่อประหยัดต้นทุน
  • หลีกเลี่ยงวัสดุที่มีสารเคมีหรือเชื้อโรคปนเปื้อน
  • ควรห่มดิน บ่มดิน ในช่วงต้นฤดูปลูกเพื่อให้พืชได้รับประโยชน์สูงสุดจากวัสดุที่ใช้คลุม

ปรุง ห่ม บ่ม พื้นดิน ทำอย่างไรให้ดินสมบูรณ์ ตอน 1 | อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ

ปรุง ห่ม บ่ม พื้นดิน ทำอย่างไรให้ดินสมบูรณ์ ตอน 2 | อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ

ประโยชน์ของ "ห่มดิน" และ "บ่มดิน"

ประโยชน์ของห่มดิน

  • รักษาความชื้นในดิน ลดการใช้น้ำในการเกษตร  
  • ลดอุณหภูมิหน้าดิน ทำให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช  
  • ลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช  
  • เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน  

ประโยชน์ของบ่มดิน

  • เพิ่มธาตุอาหารในดินอย่างสมดุล  
  • ปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย  
  • ลดความเป็นกรด-ด่างในดิน  
  • เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน  

 

ตัวอย่างการนำไปใช้


ตัวอย่างห่มดิน

  • ในสวนผลไม้ ใช้ฟางข้าวคลุมโคนต้นไม้เพื่อรักษาความชื้นในดินและป้องกันวัชพืช  
  • ในไร่นา ใช้ปุ๋ยพืชสด เช่น ถั่วพร้า ปลูกแล้วไถกลบเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ  

ตัวอย่างบ่มดิน

  • ในแปลงผัก ใส่ปุ๋ยหมักและบ่มดินไว้ก่อนปลูก 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ธาตุอาหารในดินพร้อม  
  • ในสวนยางพารา ใส่ปุ๋ยคอกพร้อมจุลินทรีย์ชีวภาพ แล้วพักดินก่อนปลูกต้นยางใหม่  


ศาสตร์ PRM จัดการดินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออนาคตการเกษตรที่ยั่งยืน ตอน 1 | สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz

ศาสตร์ PRM จัดการดินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออนาคตการเกษตรที่ยั่งยืน ตอน 2 | สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz

โดยสรุปแนวคิดคือ

ห่มดิน" และ "บ่มดิน" เป็นกระบวนการฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพดินที่ง่ายและยั่งยืน ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร หากนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้ จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศที่ดี และฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง! แน่นอนว่าการห่มดินตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแนวทางที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรม ด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาช่วยฟื้นฟูคุณภาพดิน การใช้วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงดินให้มีคุณภาพดีขึ้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนในการเกษตรและส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วยนะครับผม... ^_^

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Bloger   :
    http://www.dolravee.com/
Facebook :    https://goo.gl/qNF1ak
Youtube  :    https://goo.gl/F6d8A4

 

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

บทความที่ได้รับความนิยม