7
เคล็ดลับ วิธีกำจัดพฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่ง อย่างยั่งยืน
การผัดวันประกันพรุ่ง ในทางจิตวิทยาก็คือพฤติกรรมที่ทำให้คุณเป็นเสมือนคนที่พ่ายแพ้ และไร้ซึ่งความรักแม้กระทั้งตัวคุณเอง บางคนถึงขั้นมีพฤติกรรมลงโทษตนเอง ในบางครั้งก็ไม่ยากทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำถึงแม้ถ้าทำแล้วมันคือประโยชน์สุงสุดในชีวิตก็ตาม
พฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่ง แท้จริงแล้วมันก้คือนิสัยที่เราสร้างให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เรามีชีวิตในวัยเด็ก และพฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่งมักจะทำให้เราเข้าใจว่าการผัดวันประกันพรุ่งคือการป้องกันตัวซึ่งมันอาจเกิดขึ้นแบบอัตโนมัตโดยที่เราไม่รู้ตัว เสมือนกับมันทำให้เรามีอำนาจในขณะนั้นๆ จากสถาณการที่ไร้ซึ่งอำนาจในระยะเวลานั้น
พฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่ง แท้จริงแล้วมันก้คือนิสัยที่เราสร้างให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เรามีชีวิตในวัยเด็ก และพฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่งมักจะทำให้เราเข้าใจว่าการผัดวันประกันพรุ่งคือการป้องกันตัวซึ่งมันอาจเกิดขึ้นแบบอัตโนมัตโดยที่เราไม่รู้ตัว เสมือนกับมันทำให้เรามีอำนาจในขณะนั้นๆ จากสถาณการที่ไร้ซึ่งอำนาจในระยะเวลานั้น
สมมุตว่าช่วงชีวิตที่ตอนเป็นเด็ก หรือสังเกตพฤติกรรมเด็กๆ เมื่อถูกพ่อแม่ดุ หรือตะคอก ให้ทำอะไรที่เด็กไม่ยากจะทำสักอย่าง อาทิ หยุดเดี๋ยวนี่นะ หรือ มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไปล้างจานเดี๋ยวนี้นะ ซึ่งเด็กไม่สามารถปฎิเสธได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เด็กคนนั้นก็จะอู๋ หรือจะพยายามหาข้ออ้างต่างๆเพื่อใม่ให้อยากทำในสิ่งที่ตนไม่อยากทำทั้งๆที่ไม่สามารถปฎิเสธที่จะไม่ทำตามที่พ่อหรือแม่สั่งได้ อาทิ ดุหนังให้จบก่อน ดูกาตูนให้จบก่อนเป็นต้น…
เมื่อเด็กคนนั้นเติบโตขึ้น จะติดนิสัยผัดวันกระกันพรุ่งมาจนโต อาจมีพฤติกรรม อาทิเช่น เลื่อนการจ่ายค่าบัตรเครดิต เลื่อนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ จนอาจถูกตัดเป็นต้น และอาจรวมถึงการเลื่อนผัดผ่อนงานที่เป็นประโยขน์กับตนเองจนกระทั่งทำให้พลาดโอกาศดีๆในชีวิตไป
เรามาดูกันว่าหนทางทีเราจะหลุดพ้นนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ก็คือการสร้างนิสัยใหม่ขึ้นมาแทนที่นิสัยเดิมๆของเรานั้นเอง
เทคนิคการสร้างนิสัยใหม่เพื่อขจัดพฤติกรรมอาการผัดกันประกันพรุ่ง
1- การตัดสินใจ เราจะต้องตัดสินใจไปเลยว่าชิวิตนี้ที่จริงแล้วเราต้องการอะไร เช่น หากเราตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องตื่น หกโมงเช้าของทุกๆวัน คุณต้องทำเลยเริ่มตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้น และลงมือทำอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ
2- ห้ามมีข้อแม้ใดๆเลยเด็ดขาด อย่ายอมให้ตนเองมีข้อแม้ใดๆเกิดขึ้น โดยเด็ดขาด ย้ำนะครับห้ามมีข้อแม้โดยเด้ดขาด โดยเฉพาะช่วงเวลาทีเรานั้นกำลังสร้างนิสัยใหม่นี้ สมมุติว่าคุณตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องตื่นหกโมงเช้าทุกวัน แล้วออกวิ่งเพื่อออกกำลังกาย คุณเพียงตื่นขึ้นมาแล้วสวมชุดออไปวิ่งโดยไม่ต้องสนใจใครและไม่ต้องฟังใครทั้งสิ้น
3- ห้ามบอกคนอื่นๆว่าคุณกำลังสร้างนิสัยใหม่ๆเพื่อเอาชนะนิสัยผัดวันประกันพรุ่งอยุ่ ข้อนี้หลายๆท่านอาจจะมีข้อโต้แย้ง เพราะถ้าใครเคยอ่านหนังสือแปลต่างประเทศ หรือเคยเข้าฟังสัมมนาต่างๆ ก้ได้รับรู้ว่าเราควรบอกคนอื่นๆเพื่อให้เป็นการเพิ่มพลังให้กับตนเอง แต่วิธีบอกคนอื่นนั้น ใช้กับสังคมบ้านเราไม่ได้ผล เราต้องอยู่ในโลกแห่งความจริงและยอมรับความเป็นจริง เพราะถ้าเราบอกคนอื่นๆในสิ่งที่เราทำ โดยเฉพาะคนทีเคยเห็นว่าเราเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คนเหล่านั้น ก้จะบอกคุณกลับทางด้านลบ อาทิ คุณไม่มีวันทำได้หรอก และฯลฯ ที่จะสะท้อนมาในด้านลบ สิ่งเหล่านี้มันจะทำให้คุณท้อแท้สิ้นหวังที่จะลงมือทำในที่สุด เชื่อผมเถอะอย่าบอกใครๆจนกว่าคุณจะทำมันสำเร็จ
4- สร้างภาพในใจตนเอง คุณจะต้องเห็นภาพจิตนาการในสิ่งที่คุณต้องการจะเป็น เสมือนกับว่าคุณได้ทำมันสำเร็จแล้ว สำหรับข้อนี้ผมอยากให้คุณตั้งเป้าให้สูงๆเข้าไว้เพราะการตั้งเป้าหมายสูงแล้วสร้างภาพให้เห้นเสมือนว่าคุณได้มันมาแล้วมันจะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วยพลังจิตใต้สำนึก และพยายามไปให้ถึงเป้าหมายนั้นๆให้ได้ ถึ้งแม้คุณจะยังไม่ได้ถึงเป้าหมายที่วางไว้แต่มันก้ทำให้คุณพัฒนาตนเองไปเยอะที่เดียว เหมือคำพูดที่ว่า ตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ ถึงจะพลาดมันก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว ที่สำคัญ การตั้งเป้าหมายสูงๆมันไม่ได้ทำให้คุณเสียตังสักหน่อย...
5- สร้างข้อความเพื่อตอกย้ำจิตใต้สำนึกของตนเอง การที่คุณสร้างข้อความเพื่อตอกย้ำตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะทำให้สิ่งเหล่านี้มันฝังลงในจิตใต้สำนึกของคุณเอง และให้คุณนั้นสร้างข้อความเป็นประโยคบอกเล่า และพูดกับตนเองซ้ำๆทุกครั้งที่มีเวลา หรือเวลาก่อนที่คุณจะนอน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งคุณจะเห็นควมมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
6- ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ที่ทำอย่างไม่ลดละ คุณต้องดำรงไว้ซึ่งวินัยจนกว่าเป้าหมายคุณจะสำเร็จ ทำจนทุกอย่างกลายเป็นนิสัย และเมื่อกลายเป็นนิสัยทุกอย่างจะกลายเป็นอัตโนมัติดโดยที่คุณไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย
7- ให้รางวัลกับตนเองเมื่อคุณทำสำเร็จ การให้รางวัลกับตนเองคือวิธีการเสริมแรงทางจิตวิทยา ที่จะเชื่อมโยงรางวัลที่ได้เข้ากับระบบจิตใจต้สำนึก และคุณจะได้รับพฤติกรรมแห่งความสุขนี้แบบอัตโนมัติแบบที่คุณไม่รู้ตัวและสิ่งที่ดีงามจะเข้ามาหาคุณอย่างที่คุณไม่คาดฝัน จักวาลจะมองสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริงให้กับคนที่คู่ควรเสมอ…
จงสร้างนิสัย และฝึกใช้กระบวนการที่กล่าวมาทั้ง 7 ข้อ เพื่อให้คุณหลุดพ้นจากนิสัยผัดวันประกันพรุ่งอย่างถาวร และสร้างนิสัยใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เพียงคุณ สร้างนิสัยใหม่ๆเดือนละ 1 นิสัย ก็เท่ากับว่าคุณมีนิสัยใหม่ 12 นิสัยต่อปี และเมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี นั้นเท่ากับว่าคุณมีนิสัยใหม่ 60 นิสัยเลยที่เดียวนั้นก็หมายความว่า คุณจะเป็นคนใหม่อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณไฝฝันไว้ เพราะถ้าคุณไม่ทำเวลามันก็ผ่านไปอยู่ดี เห็นไหมครับการเปลี่ยนนิสัยผัดวันประกันพรุ่งไม่อยากอย่างที่คิดเลย.... ^_^