ใส่ปุ๋ยต้องรดน้ำตามไหม? | คุยกับ อ.ตรี ตอน 6

  

วันนี้จะทั้งตอบฅำถามและเขียนเป็นบทความให้ อาจารย์อาคมที่ขอมา

เริ่มที่ "ปุ๋ยไม่มีขา รากไม่มีมือ" หลายรายอ่านแล้วก็งงๆ ความหมายก็คือ เวลาเราใส่ปุ๋ย หลายคนมักจะไม่ค่อยสนใจเรื่ององค์ประกอบว่าใส่แล้วปุ๋ยแล้ว จะเข้าไปในพืชได้อย่างไร? หรือ พืชเอาไปใช้ได้อย่างไร? เนื่องจากทุกอย่างที่ใส่ลงไปในดินก่อนที่พืชจะนำไปใช้ต้องละลายเป็นสารละลาย หรือ แตกตัวเป็นอิออนก่อนถึงจะถูกดูดเข้าสู่ต้นไม้ ดังนั้นหลายคนมักจะถามว่าหว่านปุ๋ยเสร็จแล้วต้องรดน้ำมั้ย ก็ให้สังเกตุว่าใส่ปุ๋ยเสร็จ ปุ๋ยตกลงไปก็อยู่ตรงนั้น และขณะเดียวกันเมื่อมันตากแดดตากลมมากๆ

ธาตุบางตัวก็จะสูญเสียในอากาศโดยเฉพาะไนโตรเจน ดังนั้น จะสังเกตุว่าการออกแบบการใส่ปุ๋ย ผมจะออกแบบให้พืชสามารถนำไปใช้ได้เลย หรือ ฝากไว้กับวัสดุที่ใส่เสริมลงไปในดินในรูปของวัสดุฟื้นฟูดินสูตรต่างๆ หรือ แบบที่ย่อยแล้ว (สูตร 2) หรือ ใส่เสริมลงไปโดยเป็นสารละลาย หรือ ให้อยู่ในรูปอินทรีย์ คีเลต (Chelate)

(ปุ๋ยคีเลต (Chelate) เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในบริบทของปุ๋ยและการให้ธาตุอาหารในการเกษตร ปุ๋ยคีเลต หมายถึงปุ๋ยที่ประกอบไปด้วยธาตุอาหารที่ถูกผูกเข้ากับสารอื่นที่เรียกว่า chelating agent (สารเชลเลต) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำธาตุอาหารเข้าสู่พืช)

ดังนั้น สรุปเวลาจะใส่ปุ๋ย ต้องไม่ถามว่าใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำมั้ย สองปัจจัยที่จะใส่เท่าไหร่ เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของต้น คุณภาพของดิน และ ฝนฟ้า อากาศ ข้อนี้คงจะไม่เป็นปัญหาอีกเรื่องที่จะต้องถามว่าจะสังเกตุอย่างไร? ก็ให้สังเกตุส่วนของพืชที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ฟื้นตัวไหม หรือถ้าเป็นยางก็ให้สังเกตุผลผลิตที่ค่อยๆฟื้นตัวนะครับ 

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ

  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ

  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

สรีระของพืชที่เกษตรกรควรรู้ : หน้าที่การทำงานของรากพืช | คุยกับ อ.ตรี ตอน 5


บทความวันนี้ผมอยากจะพูดเรื่องสรีระของพืชที่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นภูมิความรู้ที่เราเกษตรกรต้องรู้และนำไปใช้กัน สรีระของพืชที่เกษตรกรต้องรู้ ก็คือ ต้นพืชมีองค์ประกอบที่ใช้ในการดำรงค์ชีพ คือ ราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอก ผล แต่วันนี้จะขอพูดเรื่องรากในส่วนสำคัญๆ ที่อยากให้สมาชิกเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ก่อน...

ราก คือ อวัยวะของพืชส่วนที่ใช้ดูดซับน้ำ และสารอาหาร มี 2 ประเภท คือ รากอากาศ และ รากในดิน ในส่วนของรากอากาศจะอยู่ในพืชประเภทกล้วยไม้ต่างๆ กาฝาก เป็นต้น จะมีรากที่ใช้เกาะยึดอาศัยพยุงตัว แต่ไม่เบียดเบียนและแย่ง หรือดูดทำลายพืชที่ให้อาศัยเป็นหลักเกาะยึด แต่อีกชนิดนึ่งจะสร้างรากแทงเข้าไปในเนื้อเยื้อพืชที่มันเกาะอยู่ แล้วแย่งดูดน้ำเลี้ยงที่พืชอาศัยเกาะอยู่ในลักษณะกาฝากกับพืชอีกชนิดที่มีรากหยั่งลึกลงไปในดินหรือในน้ำ และวันนี้จะขอใช้บทความนี้อธิบายให้สมาชิกบางท่านได้เข้าใจถึง "หน้าที่การทำงานของรากพืช"

แต่หน้าที่หลักที่พืชใช้รากในการดูดซับสารอาหารแล้ว พืชยังใช้รากในการยึดเกาะให้ลำต้น การจัดแบ่งรากนอกจากแบ่งในลักษณะดังกล่าวแล้ว รากพืชบางส่วนของพืชบางชนิดยังมีการพัฒนาเป็นทุ่นลอยน้ำ เช่น รากของแพงพวย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ ที่พืชแต่ละชนิด พัฒนาปรับสภาพตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม...

รากพืชเมื่อพัฒนาจากเมล็ดจะมีขนาด และการแตกกิ่งก้านออกมาต่างชนิดต่างขนาดกันซึ่งพอจัดแบ่งตามขนาดดังนี้ รากแก้ว รากกิ่ง รากแขนง รากฝอย และ รากขน โดยไม้ล้มลุกจะมีรากแขนง และ รากขนเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช และ พืชใช้รากเหล่านี้แตก และยื่นส่งรากฝอยออกไป เพื่อให้รากขนที่ปลายรากฝอยได้ขยับหาแหล่งดูดซับสารอาหารที่อยู่ในดินออกไปทีละนิดที่ละนิด โดยที่ปลายรากฝอยเหล่านี้ที่มีรากขนอยู่ จะเกิดใหม่ และเมื่อรากขนเก่ามีอายุ 2-4 วันก็จะหมดอายุ และ ตายไป ในปลายรากขน จะมีจุลินทรีย์จำนวนมากอาศัยอยู่ทั้งใน และ ด้านนอกรอบๆ รากขน 

ที่ค่อยแตกตัวธาตุอาหารที่น้ำละลายไม่ได้ให้รากสามารถดูดซับไปใช้ได้ ดังนั้นการใช้ยา และ สารเคมีต่างๆ ที่เราใช้เพื่อป้องกันรา และ โรคต่างๆ ล้วนแล้วค่อยๆ มีผลต่อชีวิตในดินทั้งสิ้น เมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็จะไปแสดงต่อสุขภาพ หรือ ความแข็งแรงของพืช ที่นี้ก็เรามาดูอีกทีเรื่อง คือ เหล่าจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ทั้งภายใน และ ภายนอกรากขน พืชจะส่งสารประเภท คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) ที่สังเคราะห์เสร็จจากใบส่วนนึงมาเลี้ยงราก และ แบ่งปันส่วนนึงให้กับเหล่าจุลินทรีย์เหล่านี้...

จากเหตุผลดังกล่าว ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นข้อเตือนใจถึงเหล่าชาวสวนปลูกยางทั้งหลายเรื่องการกรีดยาง และ การใช้ฮอร์โมนเร่งน้ำยาง จนกระทั้งไม่มีน้ำยางเหลือเพื่อส่งไปเลี้ยงราก และ เหล่าจุลินทรีย์ดังกล่าว เหมือนคนถูกถ่ายเลือดบ่อยจนเกินจากที่ร่างกายจะผลิตได้ทัน เมื่อร่างกายผลิตไม่ทัน ร่างกายก็จะไม่มีเลือดที่ทั้งทำหน้าที่ส่งออกซิเจน และ อาหารที่ให้พลังงานกับชีวิตไปให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และ ขนย้ายของเสียจากส่วนต่างๆ ไปฟอกที่ไตและตับ

สำหรับสมาชิกที่ปลูกยางคงได้คำำตอบคร่าวๆ แล้วนะครับ ส่วนสมาชิกที่ชอบพ่นยาฆ่าต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน พ่นฆ่าอย่างเช่น ไฟท็อป แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ฆ่าแค่ไฟท๊อป แต่มันฆ่า และทำลายหลายอย่างในบริเวณนั้น หยุดเถอะครับ หยุดเถอะ! 

การใช้แนวทางที่ขาดการเรียนรู้ในองค์ความรู้รวม เหมือนดังเช่นกับคำว่า "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ว่าท่านเข้าใจในเรื่องที่ท่านทำจริงๆ แล้วยัง? ท่านเข้าถึงความรู้ดังกล่าวแค่ไหน? เหล่านี้ล้วนจะทำให้เราและท่านพัฒนาอาชีพเกษตรกรของท่านได้อย่างยั่งยืน ด้วยความปราถนาดีจาก การเกษตรรูปแบบ PRM การเกษตรที่เป็นอภิปรัชญตาสำหรับเกษตรกรทุกผู้ทุกคนครับ...

พระหัตถ์ของพ่อ ร.9 ภาพเดียวที่สื่อได้ทุกอย่าง

มือที่เราเหล่าชาว PRM ต้องเอาเป็นแบบอย่าง
"ลูกพ่อ รักพ่อ เราจะเดินตามพ่อ"

พ่อที่เป็นแบบอย่างทั่วโลก จนทั่วโลกยอมรับ
"5 ธันวา วันดินโลก"
วันที่เกษตรรุ่นใหม่พัฒนาใช้เป็นฐานในการเพาะปลูก

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

การใส่ปุ๋ยในอากาศปิดหลายวันมีผลต่อพืชอย่างไร? (ต่อ) | คุยกับ อ.ตรี ตอน 4

ขอต่อบทความที่เกี่ยวกับเรื่องการใส่ปุ๋ยจำเป็นมั้ยต้องรอให้ฝนทิ้งช่วง รอให้ดินโศกน้ำ ค่อยใส่ปุ๋ย บอกเลยครับ จากอธิบายการใช้น้ำ และการคายน้ำของพืช ตัวที่เราต้องยึดเป็นหลักคือตัวที่ให้พลังงานกับพืชที่ใช้ในการเปลี่ยนน้ำไปเป็นไอคายออกมา กับ อีกกรณีหนึ่ง คือเปลี่ยนน้ำเป็นสารอาหารใช้ในตัวพืช ดังนั้น หากฝนหยุดตกและมีแสงแดดแรงกล้า เราสามารถใส่ปุ๋ยได้ทันที เพราะเมื่อมีการคายน้ำ และใช้น้ำระบบท่อน้ำในโครงสร้างของพืชจะขาดน้ำและเกิดแรงดึงดูด หรือ ออสโมซิส (Osmosis) ซึ่งการดูดเข้าจะเข้ามาพร้อมกับการละลายที่เป็นอิออนของธาตุอาหาร...

 โอเครครับ เอาพอเข้าใจแบบง่ายและเห็นภาพเพื่อให้พวกเราได้คำตอบเพื่อนำไปปฏิบัติ

ส่วนคำถามที่ว่า หากอากาศปิดหลายๆวัน แสงแดดไม่พอเพียงให้พืชใช้สังเคราะห์แสงแบบที่ อ.เป็ดท่านถามเพื่อหาฅำตอบและความเข้าใจให้สมาชิกนั้น กรณีนี้ให้พิจารณาถึงความแข็งแรงของต้น ว่าพืชมีความแข็งแรงขนาดไหน แล้วมีการสะสมอาหารของพืชสมบูรณ์เพียงพอมั้ย พืชมีภาระการเลี้ยงดูต้น หรือ มีกำลังฟื้นฟูต้น หรือ มีผลผลิตติดผลมากจนจะทำให้พืชทรุด เพราะหากพืชปรุงอาหารไม่ได้หลายๆวัน ในการผลิต ผลผลิตจำนวนมาก เพื่อให้โตภายในกรอบรอบวันที่กำหนด เมื่อปรุงอาหารไม่ได้ก็จะไปดึงจากส่วนต่างๆของส่วนอื่นไปใช้ ทำให้พืชมีความสมบูรณ์ถอยหลัง ในกรณีดังกล่าวหากฟ้าปิดเกิน 3-4 วัน เราอาจให้น้ำเกลือกับพืชแบบคนป๋วยคือการฉีดพ่นทางใบอีกทางครับ

ส่วนอีกคำถามที่ คุณปุ้ย ถามให้กับสมาชิกแบบขอแบบเร่งด่วนว่า ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำท่วมขัง เราจะดูแลลทุเรียนอย่างไรหลังน้ำท่วมขัง ก็ง่ายๆเรื่องแรก รีบเปิดทางน้ำไม่ให้น้ำท่วมขังนานเกิน เรื่องที่ ต้องงดเว้น คือการเข้าไปย้ำใต้ทรงพุ่ม เพราะช่วงนี้รากจะอ่อนแอ หรือ เสียหาย โรคจะเข้าโจมตีได้ง่าย เรื่องที่สามคือเมื่อให้น้ำจนดินเริ่มโศกน้ำ ให้กระตุ้นรากให้แตกใหม่เพิ่ม ในแนวทางการเกษตรรูป PRM จะใช้วิธีหว่านโซคอนเพื่อกระตุ้นรากใหม่ เรื่องที่ห้าให้เสริมธาตุย่อยธาตุเสริมต่างๆ และสังเกตุถึงการแตก และกระจายรากใหม่ เพราะพอน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก น้ำฝนและน้ำที่หลากจะละลายเอาธาตุอาหารต่างๆไปด้วยครับ...

เช้าวันจันทร์ ตลอดจนทั้งวัน ผมติดภาระกิจพา ท่าน ผ.อ.พัฒนาที่ดินจังหวัด และ สมาชิกบางท่าน ดูงานการเกษตร PRM ที่ทำกันที่จ.สุพรรณ อยุธยาและ อาจรวมถึงกาญจนบุรี ด้วย รวมทั้งแก้ปัญหาการแก้ปัญหาการขาดธาตุของพืชหลังฝนตกและน้ำท่วมขัง วันนี้จึงอาจจะไม่ได้เขียนบทความที่เพิ่มเติมให้ นอกจากบทความที่ค้างเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เพราะ 2-3 วันที่ผ่านมากำลังเร่งทำงานหลายเรื่องรวมทั้งอัดคลิปบางเรื่องส่งให้ท่าน อ.อาคม ครับ...

 

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^
 

การใส่ปุ๋ยในอากาศปิดหลายวันมีผลต่อพืชอย่างไร? | คุยกับ อ.ตรี ตอน 3


เมื่อวานเขียนบทความเล่าให้ฟังว่า เมื่อมีแสงแดด พืชใช้น้ำอยู่ 2 กรณีโดยเมื่อพืชคายน้ำเพื่อระบายความร้อนของแสงแดดที่สาดส่องลงมา ทำให้ปริมาณน้ำในโครงสร้างพืชลดลงนอกจากปริมตรน้ำในท่ออาหารลดลงแล้ว เกิดความเข้มข้นของน้ำในท่อน้ำ เนื่องจากพืชคลายน้ำออกไป จากเงื่อนไขใน 2 กรณี จึงทำให้เกิดแรงดูดซับในส่วนของรากขน ดูดซับน้ำจากภายนอกระบบรากขนพร้อมกับธาตุอาหารที่ละลายน้ำ และที่จุลินทรีย์ในดินแตกตัวให้เข้าสู่ระบบรากมาพร้อมน้ำ 

ด้วยน้ำที่เป็นสารละลายเหล่านี้ จะถูกดึงส่งต่อเซลล์ต่อเซลล์ของระบบท่อส่งน้ำเข้าสู่ใบพืชเพื่อเปลี่ยนน้ำและคาร์บอนไดออกไซค์ที่จับจากอากาศ และสภาพแวดล้อมเป็นน้ำตาล ก่อนเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแป้งแล้วส่งต่อออกมาเปลี่ยนรูปตามส่วนต่างๆ ของพืช

เมื่อทราบข้อมูลคร่าวๆ ที่ทวนให้แล้ว ที่นี้ก็จะขอทวนเรื่องเมื่อพืชดูดน้ำและธาตุอาหารเข้าระบบรากโดยการออสโมซีส ความเข้มข้นภายในรากจะต้องสูงกว่าบริเวณรอบรากขน ขบวนการ ออสโมซิส (Osmosis) จึงจะเกิดความสมบูรณ์ หากว่าความเข้มข้นของธาตุอาหาร และน้ำมีความเข้มข้นสูง ก็จะเกิดขบวนการที่เรียกว่า พลาสโมไลซิส (Plasmolysis) คือน้ำในนะบบรากจะถูกดึงออกสู่ภายนอกระบบราก ทำให้พืชสูญเสียน้ำ พืชจะแสดงอาการเหยี่ยวเฉาหากสูญเสียน้ำมากๆ อาจทำให้พืชช๊อกตาย ที่พวกเราเรียกว่าใส่ปุ๋ยจนดินเค็มไป

จากเหตุผลดังกล่าวจึงพอสรุปได้ว่า หากเราจะใส่ปุ๋ยต้องใส่เป็นระยะยิ่งทุกวันได้ยิ่งดี แต่ใส่น้อยๆ ใส่แบบเจือจาง เพราะพืชต้องการธาตุอาหารที่เป็น ธาตุคาร์บอน ไฮโตรเจน และ ออกซิเจน เป็นหลัก ส่วนอื่นอีกสิบกว่าตัวไม่ว่าจะเป็น N P K ที่บอกว่าใช้เยอะแล้วรวมกับธาตุย่อยธาตุเสริมตัวอื่น ยังไม่ถึง 1% ของน้ำหนักต้นเลย ดังนั้นการใส่ธาตุอาหารให้พืชต้องรู้จักพิจารณา 

งานวิจัย PRM จึงพัฒนาวิชาการใส่ปุ๋ยที่มีทั้งส่วนกินได้ทันที และฝากไว้กับวัสดุที่ผสมคลุกเคล้าลงไปให้ อีกทั้งวัสดุดังกล่าวได้นำวัสดุเหลือใช้ทางด้านการเกษตรมาใช้ซึ่งในวัสดุดังกล่าวก็คือซากพืชซากสัตว์ที่ก่อตัวมาจากธาตุอาหาร เมื่อสลายตัวก็จะปลดปล่อยธาตุอาการได้ครบ ในส่วนนั้นเราจึงค่อยมาดูว่าพืชผลิใบใหม่แสดงอาการขาดธาตุอะไร? ในกรณีนี้จึงค่อยเติมเสริมเพิ่ม จึงเกิดวัสดุปรับปรุงดินสูตร 4 ในรูปปุ๋ยสูตรน้ำให้ทุกคนได้ใช้ผสมเพิ่มเติมใน สูตร 2 และ สูตร 3

ส่วนวิธีการใส่ปุ๋ยในปัจจุบัน ที่พวกเราใส่ปุ๋ยเคมี N P K ที่ผ่านมา ผมไม่ขอวิจารณ์เยอะ แต่จะชี้เปรียบเทียบให้เห็นเหมือนเราเลี้ยงลูก เราสามารถที่จะตามใจหรือมักง่ายกับลูกได้ แต่จะนำมาซึ่งการขาดธาตุอาหารแบบไม่สมดุลย์

ลูกเราสามารถที่จะกินเนื้อสัตว์ต้มเปล่าๆบวกกับข้าวเปล่าทุกวันได้ แต่เมื่อกินไปนานๆ ลูกเราก็จะเกิดอาการขาดเกลือแร่ และวิตามิน เช่นเดียวกับพืช ด้วยความที่เกษตรกรไม่รู้ซึ้งถึงความจริงของการใส่ธาตุอาหารและเข้าใจว่ายิ่งใส่เยอะยิ่งดี เหล่านี้ที่งาน  PRM ต้องเสาะหาความจริงมาให้ชาวเราได้ใช้เป็นหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง 

คงจะขอพรุ่งนี้ต่อเนื้อหาให้ เพราะวันนี้ทั้งฟอกไต และงานเต็มไปหมด พรุ่งนี้แต่เช้าจะต่อเนื้อหาให้อีกทีนะฅรับ...

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

การฟื้นฟูต้นไม้ในฤดูฝน | คุยกับ อ.ตรี ตอน 1

ช่วงเวลาฝนตก นั่งมองน้ำฝนที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า อดไม่ได้ที่จะหา เหตุและผลว่า ทำไมแค่น้ำฝนหยดลงมา กลับทำให้ต้นไม้ทั้งโลกฟื้นตัว

วันนี้ขอนำบทความเรื่องการฟื้นฟูต้นไม้ในฤดูฝนมาถอดบทความให้สมาชิกได้อ่านทำความเข้าใจกัน ในฤดูฝนเป็นฤดูที่เหมาะสมกับการฟื้นฟูพืชทุกชนิด มีการเติมเต็มไนโตรเจนทางธรรมชาติแบบสมดุลย์ เพราะไนโตรเจนในอากาศที่ละลายน้ำฝน พร้อมความชื้นลงมากับฝนเป็นสัดส่วนทางธรรมชาติที่ธรรมชาติออกแบบไว้จนเป็นสัดส่วนที่พืชยอมรับ 

หากมากกว่านั้นพืชก็จะอวบอ้วนจนเป็นปัญหากับตัวพืชเอง เพราะโรคกับแมลงจะเข้าโจมตีได้ง่าย แต่บางพื้นที่ ที่แม้มีฝนตก รดพรมแต่ต้นไม้ไม่งาม ก็เพราะสัดส่วนของธาตุอาหารในดินที่เป็นองค์ประกอบตัวอื่นไม่สมดุลย์ ทำให้พืชเจริญเติบโตแบบไม่สมดุลย์

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมถึงได้บัญญัติวิธีการให้ธาตุอาหารพืช แบบเจือจาง และถี่ๆ โดยผ่ายขบวนการให้โดยทางอ้อม คือฝากไปกับวัสดุฟื้นฟูดินในแต่ละสูตรและวิธีการใช้ต่างๆ เพื่อให้ในดินมีธาตุอาหารที่ค่อยเสริฟให้กับรากพืชตลอดเวลาที่พืชออสโมซีสเอาน้ำ  และธาตุอาหารไปใช้ 

บทความนี้คงตัดข้อสงสัยที่พวกเราชอบหาฅำตอบจากผมว่า วัสดุฟื้นฟูดินต้องใส่กี่วันครั้ง? ทำไมใส่น้อยจัง?  ใส่แค่นี้จะพอเหรอ? นี้แหละ "อภิปรัชญาตาพีอาร์เอ็ม"

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^
 

พืชดึงอาหารขึ้นไปใช้อย่างไร ? | คุยกับ อ.ตรี ตอน 2

 

เมื่อวานบทความเกิดจากมองเม็ดฝนที่ค่อยๆหล่นจากฟากฟ้า ทำให้เกิดความสงสัยว่าแค่น้ำฝนทำไมเมื่อร่วงหล่นลงมา กลับทำให้พืชพรรณพลิกฟื้นคืนสภาพสมบูรณ์ทั่วถ้วน ไม่ว่าจะเป็นไม้เล็กไม้ใหญ่ แม้หญ้าแพรกที่เรี่ยติดดินก็ทะลึ่งรับความสดชื่น เพราะอะไรพวกเราก็พอรู้แล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องรู้แบบคร่าวๆว่าพืชดึงธาตุอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างไร ?

บทความเรื่องพืชดึงอาหารขึ้นไปใช้อย่างไร? เมื่อมีแสงแดด พืชใช้น้ำอยู่ 2 กรณี คือ ในการคายความร้อนของแสงแดดที่สาดส่องลงมา เมื่ออุณหภูมิสูงเกินกว่าสภาพที่พืชรองรับได้ พืชก็จะใช้ขบวนการนำความร้อนไปเปลี่ยนน้ำเป็นก๊าชแล้วคายออกมา ดังนั้นอากาศจะร้อนแค่ไหน เราเคยสังเกตุบ้างมั้ยว่าใบไม้ที่ตากแดดตลอดเวลา เมื่อเอามือจับดูจะมีอุณหภูมิที่เย็นปกติ นั้นเพราะเกิดขบวนการคายน้ำตามที่กล่าวมาแล้ว ส่วนอีกกรณีต้นไม้ใช้น้ำที่ดูดขึ้นมา บวกกับกาชคาร์บอนไดออกไซค์ที่ใบจับได้ทั้งในอากาศและสภาพแวดล้อม อาศัยแสงแดดเป็นตัวให้พลังงานและอาศัยสีเขียวคือคลอโลฟิลเป็นตัวนำโมเลกุลของน้ำและก๊าชคาร์บอนไดออกไซค์มาจัดเรียงใหม่

ทำให้เกิดโมเลกุลของน้ำตาล และเหลือก๊าชออกซิเจนขับออกมา ซึ่งน้ำตาลดังกล่าวจะเป็นขบวนการเริ่มต้นของการนำไปแปรรูปสร้างส่วนต่างๆที่เป็น ราก ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล ที่นี้คงพอมองเห็นขบวนการเจริญเติบโตของต้นไม่เลาๆกันแล้ว และที่สำคัญ ขบวนการดังกล่าวของพืชจะเกิดขึ้นที่ใบที่มีส่วนที่เป็นสีเขียวเท่านั้น ดังนั้นพวกที่ชอบแต่งกิ่งแต่งใบอ่านแล้วก็คงรู้ฅำตอบนะ...

ที่นี้อาจต้องสงสัยว่าพืชดึงน้ำกับสารอาหารขึ้นไปที่ใบได้อย่างไร?


ผมสอนให้พวกเราหัดสงสัยแล้วเอาข้อมูลงานวิจัยมาประกอบการทำงาน เราก็จะมองเห็นภาพที่ชัดเจนแบบง่ายๆ คือ เมื่อมีแสงแดดพืชคายน้ำเพื่อลดและควบคุมอุณหภูมิภายในของพืช และน้ำอีกส่วนหนึ่งก็ใช้ในการปรุงเป็นอาหารที่นำไปใช้ในการสร้างเซลล์ต่างๆของพืช จึงเกิดกาขาดน้ำในท่อน้ำที่มีลักษณะคล้ายๆหลักการกาลักน้ำ พอน้ำด้านหนึ่งไหลออกก็จะเกิดแรงดูดอีกด้านนึง ในพืชก็เช่นเดียวกัน

ในท่อน้ำที่เคยวาดง่ายๆเพื่ออธิบายให้เห็นภาพเวลาบรรยาย ซึ่งจะโยงผลไปถึงราก ประจวบกับการคายน้ำออกของพืชก็จะทำให้น้ำในท่อน้ำ มีความเข้มข้นกว่าด้านนอก จึงเกิดขบวนการที่เรียกว่าการดึงสารละลายความเข้มข้นต่ำมาเจือจางความความเข้มสูงในราก จึงเกิดการดึงน้ำเข้ามาในราก ทีนี้คงมองเห็นขบวนการการดูดน้ำและธาตุอาหารแล้วนะ

ดังนั้น การแต่งกิ่งแต่งใบล้วนมีผลลดทอนการปรุงอาหารและการคายน้ำของพืช อีกทั้งการประเคนปุ๋ยเคมีในปริมาณมากๆ ล้วนมีผลต่อการออสโมซีส หรือ การดูดอาหารของพืช แบบนี้หายสงสัยกันยังว่าทำไม วัสดุฟื้นฟูดิน PRM ใช้ปุ๋ยเคมีแค่นิดเดียว

พรุ่งนี้จะเขียนบทความอีกตอน เรื่องการใส่ปุ๋ย และหากอากาศปิดหลายวันมีผลต่อพืชอย่างไร? จะแก้ด้วยวิธีไหน?

บทความ : อาจารย์ ตรี รัชยุทธ วรรณศิริบุญ
นักวิชาการอิสระ และ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่พัฒนา PRM

ชุดความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมศาสตร์ฟื้นฟูดิน PRM เจาะลึก สุดถึงแก่น สู่ความยั่งยืน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^
 

แนวทางเชิงกลยุทธ์ของเยอรมนีในการต่อสู้กับการทุจริต | สังคมสุจริต ต้านคอร์รัปชัน ตอน 28

ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมหาอำนาจทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ได้รับการยอมรับจากมาตรการต่อต้านการทุจริตที่แข็งแกร่ง ซึ่งในบทความนี้ผมจะพาท่านมาสำรวจองค์ประกอบสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ ประเทศเยอรมนีประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับการทุจริต ตรวจสอบกรอบทางกฎหมาย แนวปฏิบัติของสถาบัน องค์กร โครงการริเริ่มที่โปร่งใส และความพยายามในการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนนะครับ...

 


กรอบกฎหมายที่ครอบคลุม

หัวใจสำคัญของความสำเร็จในการต่อต้านการทุจริตของประเทศเยอรมนีก็คือกรอบทางกฎหมายที่ครอบคลุมซึ่งกำหนดความผิดทางอาญาต่อการทุจริต ประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนี (Strafgesetzbuch) รวมถึงบทบัญญัติเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การติดสินบน และความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งภายในภาครัฐและเอกชน ระบบกฎหมายรับประกันการดำเนินคดีในคดีทุจริต โดยมีบทลงโทษที่สำคัญในการยับยั้งกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างเด่นชัด

ความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความร่วมมือระหว่างประเทศปรากฏชัดผ่านการเข้าร่วมในอนุสัญญาต่อต้านการทุจริตแห่งสหประชาชาติ (UNCAC) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการปรับกรอบกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก และร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการต่อสู้กับการทุจริตอย่างจริงจัง

 

การกำกับดูแลและการบังคับใช้ที่เป็นอิสระ

กรอบการทำงานเชิงสถาบันของเยอรมนีในการป้องกันการทุจริตมีลักษณะเฉพาะโดยหน่วยงานกำกับดูแลและบังคับใช้ที่เป็นอิสระ สำนักงานกลางเพื่อการต่อต้านการทุจริตและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (Zentrale Stelle für Korruptionsprävention und Wirtschaftskriminalität) มีบทบาทสำคัญในการสืบสวนและดำเนินคดีในคดีทุจริต ความเป็นอิสระของหน่วยงานดังกล่าวทำให้เกิดความเป็นกลางและเสริมสร้างหลักนิติธรรมในการต่อสู้กับการทุจริตอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส

สำนักงานตรวจสอบกลางของเยอรมนี (Bundesrechnungshof) ยังมีส่วนสำคัญในการกำกับดูแลโดยการตรวจสอบรายจ่ายของรัฐบาล องค์กรอิสระนี้เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการใช้กองทุนสาธารณะ ป้องกันการทุจริตผ่านการตรวจสอบทางการเงินอย่างเข้มงวด

 

การกำกับดูแลที่โปร่งใสและความรับผิดชอบขององค์กร

ประเทศเยอรมนีให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลที่โปร่งใสเป็นพิเศษ และลดโอกาสในการคอร์รัปชั่น ประเทศเยอรมนีส่งเสริมการเปิดกว้างอย่างเต็มที่ผ่านพระราชบัญญัติเสรีภาพในการให้ข้อมูล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลของรัฐบาลได้ แพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มความโปร่งใสโดยการเปิดเผยค่าใช้จ่าย สัญญา และกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาล

ในภาคธุรกิจ เยอรมนีเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบขององค์กรผ่านโปรแกรมการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด บริษัทต่างๆ ได้รับการส่งเสริมให้ใช้มาตรการต่อต้านการทุจริต และรัฐบาลก็ติดตามการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างเข้มงวด ความพยายามร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศเยอรมนีในการรักษาสภาพแวดล้อมที่ปราศจากการทุจริตนั่นเองครับ

 

กลไกการคุ้มครองและการรายงานของผู้แจ้งเบาะแส

เยอรมนีตระหนักดีถึงบทบาทที่สำคัญของผู้แจ้งเบาะแสในการเปิดเผยแนวทางปฏิบัติที่ทุจริต พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (Hinweisgeberschutzgesetz) ปกป้องบุคคลที่รายงานการทุจริตจากการตอบโต้ กรอบทางกฎหมายนี้สนับสนุนการรายงานคดีทุจริต ส่งเสริมการตรวจจับและป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ หรือที่ประเทศไทยเรามักจะเรียกว่า ป้องนำปราบ นั่นเองครับ

นอกจากนี้ กลไกการรายงานที่มีประสิทธิภาพของเยอรมนี เช่น สายด่วนและแพลตฟอร์มออนไลน์ ยังอำนวยความสะดวกในการรายงานข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต ช่องทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ปกป้องผู้แจ้งเบาะแสเท่านั้น แต่ยังรับประกันการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อกล่าวหา ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของประเทศเยอรมนีในการรักษาสังคมที่โปร่งใสและมีความรับผิดชอบอย่างที่สุดนั่นเองครับ...

โดยสรุป : ความสำเร็จของประเทศเยอรมนีในการต่อสู้กับการทุจริตเป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างกรอบกฎหมายที่ครอบคลุม การกำกับดูแลและการบังคับใช้ที่เป็นอิสระ แนวทางปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลที่โปร่งใส และมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสเชิงรุก กรณีศึกษาของประเทศเยอรมนีทำให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่อต้านการทุจริตที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ โดยมีพื้นฐานมาจากความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความมุ่งมั่นในการกำกับดูแลด้านจริยธรรมอย่างจริงจังนั่นเองนะครับผม... ^_^

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Website :    http://www.dolravee.com/
Facebook :   https://goo.gl/qNF1ak
Youtube :    https://goo.gl/F6d8A4

รายการออนไลน์เพื่อสื่อสารสังคมในภารกิจงานการสร้างสังคมสุจริต โดยการร่วมมือกัน ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนและเครือข่ายเด็กและเยาวชน คนรุ่นใหม่ ร่วมจัดรายการออนไลน์ "สื่อสร้างสรรค์ ชุมชนเข้มแข็ง"

เพจ & Youtube : สื่อสร้างสรรค์ ชุมชนเข้มแข็ง

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

กิจการ และ ธุรกิจเพื่อสังคมคืออะไร?


รายการ คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน ใน EP.86 | ในวงเสวนาในหัวข้อเรื่อง “มากินดี สินค้าดี สังคมดี เพื่อชุมชน”  ทางรายการได้เชิญท่าน อาจารย์ ไพบูลย์ บูรณสันติ ที่ปรึกษาร้านมากินดี พากินดีเพื่อสุขภาพดี(ดี) และ ท่าน อาจารย์ อัศวิน ไขรัศมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีสระบุรี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด  มาพูดคุยกันแบบสดๆ ในเรื่องราวของ ร้านมากินดี พากินดี เพื่อสุขภาพดี นวัตกรรมทางสังคม จากตัวแทน 5 ภาคส่วน ที่มีหลักการพื้นฐานบนแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กับการ  " สืบสาน รักษา ต่อยอด "  และทำความรู้จักกับ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีสระบุรี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด  กับการเดินทางกว่าจะเป็น “ร้านมากินดี” ที่จำหน่ายสินค้าดี เพื่อเกษตรกร ผู้บริโภค และ ร่วมสร้างสรรค์สังคมดี ซึ่งท่านสามารถรับชมไลฟ์สดที่ผ่านมาทางลิ้งนี้ได้เลยครับ

สามารถรับฟัง Live สดของท่าน
อาจารย์ ไพบูลย์ บูรณสันติ และ อาจารย์ อัศวิน ไขรัศมี
ได้ที่ Facebook Live คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

 

 

ในรายการได้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีการพูดถึงกิจการเพื่อสังคมหรือที่เรารู้จักในชื่อว่า Social Enterprise ซึ่งผมมองว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจผมจึงอยากจะมาพูดคุยกันต่อในบทความนนี้นะครับ ในการสำรวจกิจการเพื่อสังคมในโลกใบนี้นั่นช่างมีรายละเอียดหลายๆอย่างที่น่าสนใจ ในครั้งนี้ผมจะพาท่านมาเจาะลึกถึงความซับซ้อนซึ่งกำหนดแนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ในการจัดการกับความท้าทายทางสังคม ตั้งแต่แรงจูงใจเบื้องหลัง โครงสร้างองค์กรไปจนถึงโมเดลที่หลากหลาย และตัวชี้วัดผลกระทบ การทำความเข้าใจพลวัตของกิจการเพื่อสังคมถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ซึ่งบทความต่อจากนี้เป็นบทความที่ผมรวบรวมจากการวิเคราะห์และศึกษาในเรื่องของ กิจการเพื่อสังคมที่มีในโลกใบนี้ว่าเป็นอย่างไร แรงจูงใจ ค่านิยม โครงสร้างองค์กร และ การวัดผลกระทบ เขาทำกันอย่างไรกันนะครับ...

แรงจูงใจและค่านิยม


หัวใจสำคัญของกิจการเพื่อสังคมทุกแห่งอยู่ที่การผสมผสานระหว่างวัตถุประสงค์และผลกำไร โดยที่การแสวงหาความยั่งยืนทางการเงินอยู่ร่วมกับความมุ่งมั่นที่ฝังลึกต่อผลกระทบทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม องค์กรเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจและค่านิยมมากมาย อาทิเช่น

การเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ

ผู้ประกอบการเพื่อสังคมถูกขับเคลื่อนด้วยความหลงใหลในการแก้ปัญหาเร่งด่วนทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม กิจการของพวกเขาได้รับการชี้นำด้วยจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ซึ่งมักเกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือความปรารถนาที่จะสร้างโลกที่เท่าเทียมและยั่งยืนมากขึ้น

โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม

กิจการเพื่อสังคมเปิดรับนวัตกรรมเป็นวิธีการในการจัดการกับความท้าทายที่ซับซ้อนด้วยโซลูชั่นที่สร้างสรรค์ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี การคิดเชิงออกแบบ และแนวทางแบบสหวิทยาการเพื่อพัฒนาการแทรกแซงที่ปรับขนาดได้และยั่งยืนซึ่งส่งผลกระทบที่วัดผลได้

แนวทางปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม

กิจการเพื่อสังคมให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติทางธุรกิจที่มีจริยธรรมตลอดการดำเนินงาน โดยยึดมั่นในหลักการของความยุติธรรม ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงพนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ และชุมชนที่พวกเขาให้บริการ

ความยั่งยืน

นอกเหนือจากความสามารถในการทำกำไรในระยะสั้น กิจการเพื่อสังคมให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในระยะยาว สร้างสมดุลระหว่างการพิจารณาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พวกเขาพยายามสร้างแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืนเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม และส่งเสริมความยืดหยุ่นเมื่อเผชิญกับความท้าทายระดับโลก

โครงสร้างองค์กร


กิจการเพื่อสังคมนำโครงสร้างองค์กรที่หลากหลายมาใช้ซึ่งสะท้อนถึงพันธกิจ ตลาด และผลลัพธ์ผลกระทบที่ต้องการ อาทิเช่น


องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

องค์กรไม่แสวงผลกำไรดำเนินงานโดยหลักเพื่อพัฒนาภารกิจการกุศล โดยอาศัยเงินช่วยเหลือ การบริจาค และรายได้ที่ได้รับเพื่อเป็นทุนสำหรับโครงการ และโครงการที่ริเริ่มต่างๆ พวกเขาอาจก่อตั้งกิจการที่สร้างรายได้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางสังคมในขณะที่ยังคงสถานะได้รับการยกเว้นภาษีไว้

วิสาหกิจที่แสวงหาผลกำไร

กิจการเพื่อสังคมที่แสวงหาผลกำไรผสมผสานกิจกรรมเชิงพาณิชย์เข้ากับวัตถุประสงค์ทางสังคม โดยสร้างรายได้ผ่านการขายสินค้าหรือบริการ พวกเขานำผลกำไรไปลงทุนใหม่ในภารกิจทางสังคมหรือจัดสรรเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบควบคู่ไปกับผลตอบแทนทางการเงิน

โมเดลไฮบริด

โมเดลไฮบริดผสมผสานองค์ประกอบของโครงสร้างที่ไม่แสวงหาผลกำไรและโครงสร้างที่แสวงหาผลกำไร ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถดำเนินกิจกรรมการกุศลและกิจการที่สร้างรายได้ไปพร้อมกัน ตัวอย่าง ได้แก่ ธุรกิจเพื่อสังคม องค์กรเพื่อผลประโยชน์ และองค์กรเพื่อสังคม ซึ่งให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสังคม

 

การวัดผลกระทบ


การวัดผลกระทบของกิจการเพื่อสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินประสิทธิผล การตัดสินใจ และการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การวัดผลกระทบครอบคลุมทั้งตัวบ่งชี้เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ อาทิ

ผลลัพธ์ทางสังคม

ตัวชี้วัดผลกระทบอาจรวมถึงการปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพ ความสำเร็จทางการศึกษา การสร้างรายได้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือการเสริมพลังให้กับชุมชน ผลลัพธ์เหล่านี้มักได้รับการประเมินผ่านการสำรวจ การสัมภาษณ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ

ความยั่งยืนทางการเงิน

กิจการเพื่อสังคมติดตามตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพทางการเงิน เช่น การเติบโตของรายได้ อัตรากำไร และความคุ้มทุน เพื่อให้มั่นใจถึงความสามารถในการปรับขนาดวงเงินในระยะยาว ความยั่งยืนทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบรรลุผลกระทบที่ยั่งยืนและลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนภายนอก

การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงผู้รับประโยชน์ หุ้นส่วน นักลงทุน และชุมชนในวงกว้าง เป็นส่วนสำคัญในการประเมินผลกระทบทางสังคมและส่งเสริมความร่วมมือ ของกิจการเพื่อสังคม การขอความคิดเห็น ดำเนินการประเมินแบบมีส่วนร่วม และนำมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจที่เที่ยงตรงและแม่นยำ

การเปลี่ยนแปลงระบบ

นอกเหนือจากผลลัพธ์โดยตรงแล้ว กิจการเพื่อสังคมยังปรารถนาที่จะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบโดยมีอิทธิพลต่อนโยบาย บรรทัดฐาน และพลวัตของตลาด พวกเขาติดตามตัวชี้วัดผลกระทบเชิงระบบ เช่น การเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย พฤติกรรมของตลาด และทัศนคติทางสังคม เพื่อวัดอิทธิพลที่มีต่อสังคมในวงกว้าง




โดยสรุป : ในขณะที่เราสำรวจความซับซ้อนของกิจการเพื่อสังคม เราได้พบกับแรงจูงใจ โครงสร้าง และตัวชี้วัดผลกระทบที่สะท้อนถึงความหลากหลาย โดยน้อมรับนวัตกรรม ความร่วมมือ และความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมทางสังคม องค์กรต่างๆ มีอำนาจในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย และสร้างอนาคตที่ครอบคลุมในทุกมิติ เสมอภาค และยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคนนั่นเองนะครับผม ^_^

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการ คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
Website  :    http://www.dolravee.com/
Facebook :    https://goo.gl/qNF1ak
Youtube  :    https://goo.gl/F6d8A4

 

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

บทความที่ได้รับความนิยม