แนวทางในการผลิตพืชปลอดสารพิษ โดยการใช้สารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยและปรับปรุงดิน
การผลิตพืชในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมุ่งไปสู่การทำให้ผลผลิตปลอดภัยจากสารพิษตกค้างไปจนถึงอินทรีย์ ซึ่งกระบวนการหลายอย่างเช่น การกางมุ้งเพื่อป้องกันแมลงเข้าทำลาย การใช้กาวเหนียวดักแมลง การควบคุมการใช้สารเคมีเพื่อความมั่นใจว่าเมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว สารพิษตกค้างจะไม่ทำอันตรายแก่ผู้บริโภค หรือการใช้วิธีการต่างๆ ร่วมกันในการควบคุมศัตรูพืชไม่ให้ทำลายและสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย ในต่างประเทศซึ่งมีการผลิตแบบมีการใช้สารเคมีกันมากมานาน และปัญหาศัตรูพืชก็ยังคงมีอยู่และเพิ่มปัญหามากขึ้น ขบวนการผลิตสารเคมีใหม่ๆ ก็ทำไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อควบคุมศัตรูพืช มีผู้มองเห็นความสำคัญว่าหากปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้คงต่อไป คงจะไม่มีสิ้นสุด ในประเทศญี่ปุ่นจึงได้ศึกษาและทดลองการผลิตพืชแบบเกษตรปลอดสารพิษขึ้นร่วมกับศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ ซูกูบะ โดยเริ่มทำการทดลองการผลิตที่เขตปกครองไซตามะ ซึ่งอยู่ตอนเหนือของกรุงโตเกียวไปประมาณ 80 กม.โดยมองถึงความสำคัญของดินเป็นหลัก เพราะพืชจะเจริญเติบโตและแข็งแรงได้ต้องอาศัยดินทั้งนั้น จุดสำคัญคือการปรับสภาพสมดุลทางธรรมชาติให้เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของพืช แต่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแมลงและโรค ศูนย์ส่งเสริมและรวบรวมผลผลิตพืชผักปลอดสารไซตามะได้ดำเนินการผลิตปุ๋ยหมักเพื่อแจกจ่ายให้สมาชิกไปทำการผลิตปุ๋ยหมักสูตรต่างๆ กันแล้วแต่ชนิดของพืช ซึ่งได้แสดงไว้ในตารางที่ 1 โดยมีการใช้เชื้อจุลินทรีย์เป็นตัวเร่งการผลิตปุ๋ยหมัก จากตารางที่ 1 จะเห็นได้ว่ามีการใช้สารซีโอไลท์เข้าไปในระบบการผสมด้วย ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการปรับปรุงให้ปุ๋ยหมักมีคุณภาพดีและสร้างความแข็งแกร่งแก่พืช สำหรับในประเทศไทยไม่มีแหล่งซีโอไลท์ แต่จะมีแร่ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับซีโอไลท์ แต่ต้องนำไปพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น วิชา Nanotechnology ร่วมกับ Molecularseive Technology เพื่อประโยชน์ จึงได้นำไปทดลองและทดสอบในการใช้เพื่อการผลิตทางการเกษตร พบว่ามีคุณสมบัติดีกว่าใช้ซีโอไลท์ในหลายๆ ชนิดพืช ปัจจุบันงานวิจัยดังกล่าวได้นำมาใช้ และมีบริษัทญี่ปุ่นซึ่งเข้าประกอบธุรกิจการผลิตและส่งออกหน่อไม้ฝรั่งได้นำไปทดลองใช้เพื่อทดแทนการใช้ซีโอไลท์นำเข้า โดยผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ผลปรากฎว่า ผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าเดิมและคุณภาพของหน่อไม้ฝรั่งดีขึ้น โดยใช้ปุ๋ยหมัก 5 กระสอบๆ ละ 20 กิโลกรัม และใช้ในพื้นที่ 1 ไร่เท่านั้น สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย จากรายงานผลการเก็บเกี่ยวพบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียว เฉลี่ยไร่ละ 600 – 1,000 กิโลกรัม ในพื้นที่ปลูต่างๆ กันนอกจากจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่แล้วยังลดปริมาณการพ่นสารป้องกันกำจักศัตรูพืชลงไปอีก ซึ่งแต่เดิมเคยพ่นกำจัดเพี้ยไฟและหนอน เดือละ 4 ครั้ง จะลดการใช้ลงจะกระทั่งต้นหน่อไม้ฝรั่งแข็งแรงก็แทบไม่ได้พ่นเลย โดยมีคุณภาพของผลผลิตสูงขึ้นและต้นทุนลดต่ำลง
ซึ่งน่าจะมาพิจารณากันว่าในการผลิตพืชปลอดภัยจากสารพิษนอกเหนือจากวิธีการอื่นๆ เช่น การกางมุ้ง การใช้การเหนียวและการตรวจนับแมลงศัตรูพืชแล้วการนำเอาสารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยและปรับปรุงดิน หรือซุปเปอร์โซคอนไปใช้น่าจะเป็นวิธีหนึ่งในการลดการใช้สารพิษ เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนต่อไร่ได้
ซุปเปอร์โซคอนใช้อย่างไร?
วิธีการใช้ซุปเปอร์โซคอนจะเป็นคำถามที่ได้คำตอบที่กว้างมาก ถ้าถามว่าจะใช้เมื่อใดคำตอบที่ชัดเจนคือ ใช้เมื่อใดก็ได้ในช่วงเวลาใส่ปุ๋ย เพราะซุปเปอร์โซคอนกับปุ๋ยจะทำหน้าที่คู่กัน แต่ถ้าถามว่าถ้าใส่ปุ๋ยแล้วยังใช้ได้ไหม คำตอบคือ ใช้ได้โดยภาพรวมคือจะใส่ซุปเปอร์โซคอนเมื่อใดก็ได้ แต่ถ้าต้องการให้ได้ผล 100% ควรใส่ร่วมกับการใส่ปุ๋ยครั้งแรกในแต่ละฤดูกาลให้ปุ๋ย ซึ่งสามารถเริ่มใส่ปุ๋ยได้ตั้งแต่เริ่ม ซึ่งเป็นช่วงที่พืชกำลังเจริญเติบโต จะทำให้ต้นพืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของต้นไม้ ดังนั้นเมื่อถึงระยะเวลาให้ผลผลิต ต้นพืชก็จะให้ผลผลิตได้เต็มที่ตามความสมบูรณ์ของต้นไม้ แต่ถ้าหากใสซุปเปอร์โซคอนหลังพ้นช่วงการเจริญเติบโตของส่วนที่เป็นต้น (Vegetative Stage) เช่น ต้นข้าวใส่หลังข้าวตั้งท้องหรือออกรวง ผลของซุปเปอร์โซคอนจะไม่แสดงออกในฤดูกาลผลิตที่ใส่แต่จะไปแสดงผลในฤดูถัดไปโดยมีข้อแม้ว่า ฤดูถัดไปต้องไม่ยาวนานเกิน 4 เดือน เพราะหลังจาก 4 เดือนแล้วโซคอนในดินจะเริ่มเสื่อมสภาพ และหมดแรงดูดยึดธาตุอาหารไว้ให้แก่ต้นไม้ ดังนั้นการสูญเสียธาตุอาหารก็เกิดขึ้นตามปกติ และซุปเปอร์โซคอนจะเริ่มสลายตัวภายใน 4 เดือน
วิธีการใช้ซุปเปอร์โซคอนคือใช้คลุกกับปุ๋ยได้ทุกสูตร โดยใช้อัตราส่วนโซคอน 10 กิโลกรัม ต่อปุ๋ย 50 กิโลกรัม ระหว่างคลุกเคล้าควรพรมน้ำเบาๆ เพื่อให้ซุปเปอร์โซคอนเกาะตัวกับปุ๋ยดีขึ้น วิธีการที่จะคลุกเคล้าให้เข้ากันดีคือ เทปุ๋ยเป็นกองยาวแล้วเทซุปเปอร์โซคอนทับบนกองปุ๋ยเป็นเส้นยาวเสร็จแล้วคลุกตามแนวขวางพร้อมกับพรมน้ำเบาๆ จะทำให้การคลุกเคล้าซุปเปอร์โซคอนเกาะติดเม็ดปุ๋ยได้สม่ำเสมอยิ่งขึ้นพอคลุกเคล้าให้ซุปเปอร์โซคอนเกาะเม็ดปุ๋ยเสร็จแล้วควรทิ้งไว้สัก 4 – 6 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ ซึ่งระยะเวลาที่ทิ้งไว้นี้จะเป็นช่วงระยะเวลาที่ให้ซุปเปอร์โซคอนกับปุ๋ยทำปฏิกิริยาจับกันดียิ่งขึ้นแต่หากไม่มีเวลาก็นำไปใส่ต้นไม้เลยก็ได้ เมื่อใส่ต้นไม้แล้วควรรดน้ำเพื่อให้ปุ๋ยและซุปเปอร์โซคอนสามารถถูกต้นไม้นำไปใช้ได้ทันที สิ่งที่ควรระวังในการใช้ซุปเปอร์โซคอนคือ อย่าใส่ในอัตราส่วนซุปเปอร์โซคอนต่อปุ๋ยเกิน 1 : 4 เพราะอาจทำให้พืชแสดงอาการใบเหลืองได้ในระยะแรก ในกรณีที่ผสมซุปเปอร์โซคอนมากเกินไปและพืชแสดงอาการใบเหลือง หรือชะงักการเจริญเติบโตให้ใส่ธาตุไนโตรเจน เช่น ยูเรีย ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ จะทำให้ต้นไม้ฟื้นทันที อีกกรณีหนึ่งที่ต้องระวังคือคุณภาพของปุ๋ยหากผสมซุปเปอร์โซคอนกับปุ๋ยที่มีคุณภาพต่ำ หรือปุ๋ยปลอม ซุปเปอร์โซคอนจะไม่แสดงประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตให้เห็นสำหรับเกษตรกรที่ไม่สะดวกคลุกซุปเปอร์โซคอนกับปุ๋ย จะใช้ซุปเปอร์โซคอนหว่านพร้อมกับปุ๋ย หว่านก่อน หรือหว่านหลังปุ๋ยก็ได้ เพียงแต่หลังหว่านซุปเปอร์โซคอนแล้วให้รดน้ำให้ซุปเปอร์โซคอนและปุ๋ยละลายลงดิน เท่านั้นก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน
ในกรณีที่กลัวว่าหว่านแล้วซุปเปอร์โซคอนฟุ้งกระจายทำให้เสียของ จะใช้ซุปเปอร์โซคอนผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกก็ได้ โดยใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 50 กิโลกรัม ต่อซุปเปอร์โซคอน 10 กิโลกรัม ผสมให้เข้ากันแล้วหว่านให้ทั่วหรือหว่านเป็นแถวตามแนวปลูกในเนื้อที่ไร่ แล้วรดน้ำตาม ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
หลักการและวิธีการใส่ซุปเปอร์โซคอนให้เกิดประสิทธิผลเต็มคุณภาพ
กรณีเตรียมแปลงพืชไร่ เช่น นา อ้อย ข้าวโพด มันสำปปะหลัง ใช้ไร่ละ 10 กิโลกรัม แปลงผัก 100 – 200 ตารางวาต่อ 10 กิโลกรัม หว่านให้ทั่วๆ สำหหรับต้นไม้ทรงพุ่มสูงให้ใช้อัตรา ดังนี้
ระยะทรงพุ่ม
0.5 ม.
1 ม.
2 ม.
3 ม.
4 ม.
5 ม.
6 ม.
ปริมาณที่ใช้
25 กรัม
150 กรัม
300 กรัม
500 กรัม
1 กก.
1.5 กก.
2 กก.
เมล็ดพันธุ์แช่พร้อมปลูก เช่น ข้าวเปลือกที่คลุกเคล้าซุปเปอร์โซคอน ถังละ 1 กิโลกรัม หรือเมล็ดพันธุ์พืชอื่นๆ คลุกเคล้าให้ซุปเปอร์โซคอนพอเคลือบติด ทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ก่อนนำไปปลูกจะทำให้เมล็ดพันธุ์พลิกตัวเร็ว ตั้งตัวงอกเร็ว ไม่เป็นอาหารของแมลงและสัตว์แทะเมล็ดต่างๆ ส่วนกิ่งพันธุ์ก่อนปลูกเอาต้นแช่น้ำแล้วคลุกซุปเปอร์โซคอน เมื่อปลูกเสร็จโรยซุปเปอร์โซคอนทับหน้าดินอีกชั้น ลดน้ำตาม
สำหรับไม้ทรงพุ่ม การใส่ซุปเปอร์โซคอนให้เน้นโรยทับโคนต้นออกมาระยะ 1 ใน 4 ของทรงต้น (ระยะ A ในรูป) ใส่ประมาณ ½ ของจำนวนที่จะใส่เพื่อกระตุ้นให้ต้นไม้สร้างรากหลักเส้นใหม่ออกมา เนื่องจากรากเส้นเดิม ถ้าเปรียบกับถนนก็เป็นถนนที่ใช้มานานรถไม่สามารถบรรทุกวิ่งส่งของได้เต็มที่ส่วนที่เหลืออีกครึ่งให้โรยบางๆ เพื่อกระตุ้นรากที่เหลือของต้นไม้ให้แตกราก (ระยะ B)
หลังการโรยซุปเปอร์โซคอน เกษตรกรต้องรดน้ำเพื่อให้ซุปเปอร์โซคอน กระจายไปสู่อาณาเขตอิทธิพลของรากพืชให้สังเกตว่าไม่มีซุปเปอร์โซคอนตกค้างบนผิวดิน ขณะเดียวกันก็ไม่รดน้ำจนกระทั่งเจิ่งนองไหลทิ้ง และให้รดน้ำทุกวันหลังใส่ซุปเปอร์โซคอน 7 – 10 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตรตาม เพื่อให้รากที่แตกออกมาใหม่ได้ดูดจับสารอาหารที่เราต้องเพิ่มให้
สำหรับกรณีที่เราต้องใส่ปุ๋ยเคมี ให้นำปุ๋ยเคมี 5 กิโลกรัม ผสมกับซุปเปอร์โซคอน 1 กิโลกรัม หรืออัตราส่วนปุ๋ยเคมี 1 กระสอบ (50 กิโลกรัม) ต่อซุปเปอร์โซคอน 1 กระสอบ (10 กิโลกรัม) คลุกเคล้ากันทิ้งไว้ 5 – 12 ชั่วโมง อาจพรมน้ำให้พอชื้นเล็กน้อย กรณีที่ไม่มีเวลาผสมไว้ก่อนค่อยนำไปหว่าน
เนื่องจากซุปเปอร์โซคอนออกแบบไว้สำหรับปรับปรุงคุณภาพดิน และจับปุ๋ย กรณีที่มีการใส่ซุปเปอร์โซคอนเกินอัตราที่กำหนด สังเกตอาการใบจะเหลืองทั้งต้น ให้ใช้ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ใส่แทนในอัตราส่วน 1 : 1 ของน้ำหนักซุปเปอร์โซคอนที่ใส่
ห้ามนำซุปเปอร์โซคอนผสมน้ำฉีดพ่นทางใบ เนื่องจากผลึกของซุปเปอร์โซคอนเป็นเหลี่ยมคม หากนำมาพ่นกระทบกับโครงสร้างของพืชด้วยแรงอัดแรงๆ จะทำให้ผิวที่ตกกระทบ กระแทกเป็นแผลขนาดเล็กที่ไม่สามารถสังเกตด้วยตาเห็น และเป็นสาเหตุให้โรคเข้าทำลายได้
คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน
- ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
- ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพุธ เวลา 19.00 น. - 21.00 น. และ
- สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...
เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" เราคือใคร?