Derivatives Warrant หรือที่เรามักเรียกกันแบบคุ้นหูกันนะครับมันก็คือ ตัว DW นั่นเอง - DW ก็คือตราสารอนุพันธ์ ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นตราสารที่จะต้องไปอ้างอิงหรือไปเปรียบเที่ยบกับสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ อาทิเช่น หุ้น เป็นต้น นั่นเองนะครับ- ทั้งนี้ DW อ้างอิงกับตราสารอะไร ราคาของ DW นั้นก็จะขึ้นนลงไปตามตราสารนั้นๆ เช่น อ้างอิงกับหุ้น PTT ราคา DW ก็จะขึ้นลงตามหุ้น PTT ที่ตัว DW ไปอ้งอิงอยู่นั้นเองนะครับ
ทั้งนี้นะครับตัว DW ก็คือตัว Options ซึ่งสามารถเทรดเหมือนหุ้นได้เลย ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ ปัจจุบันสามารถใช้บัญชีเทรดหุ้นเดิมที่คุณมีได้เลยนะครับ ซึ่งจะเทรดเหมือนหุ้นปกตินั้นเอง... สำหรับท่านใดนะครับที่ยังไม่ได้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ ท่านสามารถติดต่อกับโบรกเกอร์ที่ท่านชื่นชอบเพื่อติดต่อสอบถามเปิดบัญชีได้เลยนะครับ ไม่ต้องกลัวนะครับโทรไปสอบได้เลย เพราะโบรกเกอร์ต้องการลูกค้าอย่างเราๆกันอยู่แล้วเขาพร้อมที่จะให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้กับเราเองนะครับ
ต่อมาเรามาดูกันเลยดีกว่านะครับว่าความแตกต่าง
และจุดเด่น ของ Derivatives Warrant หรือ
DW ตัวนี้เป็นอย่างไร และ Derivatives Warrant มีความแตกต่างกับตัว วอแรนท์ (Warrant) ปกติที่เรารู้จักกันมาแล้วในคลิปของผมก่อนหน้านี้กันมาแล้วนะครับ-เรามาดูกันครับว่า
2 ตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรนะครับ...
จุดเด่นของ DW (Derivatives Warrant) คือ
1- LEVERRAGE คือ
ตัวเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การที่เราจะทำกำไรได้เพิ่มขึ้นก็เพราะเรามี LEVERRAGE
เข้ามาช่วยนั้นเองทำให้เราสามารถใช้เงินทุนที่น้อยในการทำกำไรสูงๆได้- แต่ตัว LEVERRAGE เราต้องระวังเป็นอย่างมากในการใช้นะครับมัน
เป็นดาบสองคมทีเดียว เพราะมันจะทำกำไรได้มากก็จริงแต่เวลาเสียมันก็จะเสียมากเช่นกันนะครับ...
2- ราคาต่อหน่วยต่ำ
ซึ่ง DW จะมีราคาต่อหน่วยที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ที่ DW ไปอ้างอิง ในกรณณีนี้นะครับ
ถ้าเราดูหุ้นบางตัวนั้นในปัจจุบันมีราคาสูงมากอย่างกรณีหุ้นบางตัว มีราคาหุ้นละ 400 บาท เป็นต้นนะครับหากเราต้องการซื้อหุ้นตัวนี้ต้องซื้อถึง 100 หุ้นนั้น เพราะการซื้อขายหุ้น ซื้อขายเป็น board lot โดย 1 board lot = 100 หุ้น ถ้าอิงราคานี้ตามราคาเราต้องใช้เงิน
ถึง 40,000 บาท
ซึ่งนักลงทุนอาจจะมีไม่ถึง หรือ
เงินอาจจะมากเกินไปในการลงทุนในแต่ละครั้งที่รับความเสี่ยงได้ แต่ในกรณีของ DW นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ถึง 40,000 บาท เพราะ DW บางตัว ราคาเริ่มต้นเป็นเพียงเป็นเศษสตางค์ก็ยังมี
3- สามารถทำกำไรได้ทั้ง
ชนิดทำกำไรในตลาดขาขึ้น และ ชนิดที่ทำกำไรในตลาดขาลง
ซึ่งเป็นข้อดีของการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง
DW มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
DW แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งต้องแยกจากกันชัดเจน
1- DW ทำกำไรขาขึ้น ซึ่งเรียกว่า CALL DW
2- DW ทำกำไรขาลง ซึ่งเรียกว่า PUT DW
ซึ่งทั้งสองกรณีทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง นี่คือการแยกกันอย่างชัดเจนในแต่ละครั้งที่เทรดนะครับ จะมารวมกันในการเทรดครั้งเดียวไม่ได้
1- DW ทำกำไรขาขึ้น ซึ่งเรียกว่า CALL DW
2- DW ทำกำไรขาลง ซึ่งเรียกว่า PUT DW
ซึ่งทั้งสองกรณีทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง นี่คือการแยกกันอย่างชัดเจนในแต่ละครั้งที่เทรดนะครับ จะมารวมกันในการเทรดครั้งเดียวไม่ได้
การอ่านสัญญาลักษ์ของ DW
DW จะต้องมีสัญญาลักษ์
ความยาวไม่เกิน 12 ตัวอักษรนะครับ อาทิ DW ของ CPALL สัญญาลักษ์จะเป็น CPAL00C2012A ซึ่ง
* ตัวอักษร4ตัวแรก จะเป็นชื่อสินทรัพย์อ้่างอิง ในที่นี่คือ CPALL แต่ดูแล้วคงจะสงสัยกันนะครับว่า ชื่อ CPALL มี5
ตัวแต่ในสัญญาลักษ์ทำไมถึงมีเพียง 4 ตัว เพราะเนื่องจากมีการกำหนดไว่ว่าชื่อไม่ว่าจะยาวกี่ตัว
เมื่อมาทำเป็นสัญญาลักษ์ของ DW จะตัดให้เหลือเพียง
4 ตัวเท่านั้น
* ต่อมาตัวเลข 00 สองตัว ตรงนี้หมายถึงหมายเลขบริษัทหลักทรัพย์
หรือหมายเลขค่ายผู้ออกตัว DW นั้นๆนั่นเองนะครับ
อาจจะเป็น 01-21 -22 -28
แบบนี้เป็นต้นนะครับ
* ต่อมาคือตัว C ตัว C ตัวนี้ จะหมายถึงการเล่นหรือการเทรด DW ในขาขึ้น
หรือขาลง อาทิ ถ้าเราลงทุนในขาขึ้น ก็จะใช้สัญญาลักษ์ ตัว C คือ CALL DW แต่ถ้า เราเล่นหรือการเทรด DW ในขาลง จะให้สัญญาลักตัว P คือ PUT DW นั่นเองนะครับ
* ต่อมาหมายเลขอีก
4 ตัว คือหมายเลขวันหมดอายุของ DW ของตัวนั้นๆ
ซึ่งในที่นี่สมมุตเป็น 2012 หมายถึง DW ตัวนี้จะหมดอายุใน เดือน 12 ปี 2020
นั่นเองนะครับ
* ตัวอักษรตัวสุดท้าย
ก็คือ ซื้อรุ่นหรือซี่รี่ของ DW ในรุ่นนั้นๆ
อาทิ รุ่นที่ 1 จะใช้ตัว A รุ่นที่2 จะใช้ตัว B เป็นต้นนั้นเองนะครับ ซึ่งเราจะได้ทราบว่า DW ที่เราสนใจอยุ่ในรุ่นที่เท่าไหร่ของตัว DW นั้นๆนะครับ
สิ่งสำคัญในการเทรด DW
1- Effective Gearing คืออัตราทด
ซึ่งเป็นจำนวนเท่านั้นเองนะครับจำนวนเท่าและผลตอบแทนเมื่อเราลงทุน DWที่อ้างอิงจากหุ้นแม่
สมมุตมีอัตราทด 3 เท่า อาทิ
ถ้าหุ้นแม่เปลี่ยนแปลง 5 %
ตัว DW ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็น
15 % นั้นเองนะครับ
2-Time Decay ค่าความเสื่อมของมูลค่าเวลา
มูลค่าจะเสื่อมระยะเวลานานขึ้น เป็นความเสี่ยงที่สำคัญมากนะครับสำหรับผู้ที่เทรด DW คือถ้านักลงทุนถือ DW ไปเรื่อยๆ ราคา
Dw จะลดลงถึงแม้ว่าราคาหุ้นแม่จะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม
ตัวนี้สำคัญมากนะครับ สำหรับมือใหม่มักจะไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้
และเป็นเรื่องที่ควรระวังมากนะครับ ควรศึกษาเชิงลึกและสอบถามจากค่าย
หรือโบรกเกอร์ผู้ออกตราสารให้เข้าใจก่อนการลงทุนนะครับสำหรับ Time Decay ตัวนี้
3- Sensitivity ค่าการแกว่งตัวของราคา
DW ของหุ้นอ้างอิงหรือหุ้นแม่
ราคา DW ไม่จำเป็นจะต้องปรับราคาตามหุ้นแม่ทุกช่องนะครับ
แต่จะปรับราคาตามค่าของ Sensitivity ที่เลือกไว้ Sensitivity ตัวนี้
หากนักลงทุนต้องการให้มีการปรับตารางราคาตามหุ้นแม่นักลงทุนควรเลือกค่า Sensitivity เป็นค่าการปรับราคาตามตาราง DW ควรเป็น 1:1 หรือ DW เท่ากับ 1 หรือไกล้เคียง 1 นั่นเองนะครับ
ตัวนี้ก็สำคัญมากเช่นกันนะครับ
มือใหม่มักจะไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้บางคนถึงขั้นคิดว่าค่ายผู้ออกตราสารโกงก็มี
ที่จริงแล้วค่ายผู้ออกตราสารไม่ได้โกงนะครับ เพียงแต่การปรับตรารางราคาจะปรับตามค่า
Sensitivity ที่เราเลือกไว้นั้นเองนะครับ
ทั้งนี้ควรศึกษาเชิงลึกและสอบถามจากค่ายผู้ออกตราสารให้เข้าใจก่อนการลงทุนนะครับสำหรับ
Sensitivity ตัวนี้
ข้อควรระวัง การที่เราเปิดบัญชีจากค่ายหรือโบรกเกอร์ผู้ออกตราสารไหน
ให้เราอิงตารางราคากับค่ายนั้นเป็นหลักนะครับ
เพราะถ้าดูตารางจากค่ายอื่นที่เราไม่ได้เทรดกับเขาจะทำให้ตารางราคาอาจคลาดเคลื่อนได้นะครับ
เพื่อป้องกันความผิดพลาด เทรดค่ายไหนอ้างอิงข้อมูลตารางกับค่ายนั้นๆเป็นหลักนะครับ..
4- Last trading Date วันซื้อขายวันสุดท้าย
ตรงนี้สำคัญมากเพราะเมื่อเราเลือกหุ้น
เราควรดูระยะเวลาให้สอดคล้องกับการขึ้นลงของหุ้นอ้างอิงหรือหุ้นแม่ซึ่งจะต้องดูเทรนของหุ้นแม่ว่าอยู่ในช่วงเวลาขาขึ้นหรือขาลงในช่วงเวลานั้นๆ
ทั้งนี้ต้องวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค (Technicai
Analysis) และ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental
Analysis) ของหุ้นแม่ประกอบทุกครั้งที่ลงทุน
เพราะมีผลอย่างมากสำหรับคาบช่วงเวลาที่เรา
เทรด DW นั่นเองนะครับ
เทรด DW นั่นเองนะครับ
สรุปวิธีเลือก DW สินทรัพย์อ้างอิงสำหรับในการเทรด DW
1- เราต้องมีหุ้นหรือตราสารอ้างอิง
2- วิเคราะห์ทิศทางขาขึ้น
หรือขาลง ของตราสารหรือหุ้นตัวนั้นๆ
3- ระยะเวลาต้องสัมพันธ์กันต้องสอดคล้องกับระยะแนวโน้วขึ้่นลงของหุ้นแม่
และต้องคำนึงหลักการเทรด 4 อย่างของ DW ข้างต้นเสมอ Effective Gearing - Time Decay -
Sensitivity - Last trading Date ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดตัว DW นะครับ..
มาถึงตรงนี้คงจะเข้าใจในเรื่องของ DW -
Derivatives Warrant เบื้อต้นกันแล้วนะครับ DW - Derivatives Warrant คืออะไร แล้วเราจะใช้ประโยชน์จาก DW -
Derivatives Warrant กันอย่างไรในสภาวะตลาดหุ้นในบ้านเราในปัจจุบัน
แท้จริงแล้ว DW - Derivatives Warrant คือ ตัว
ออฟชั่น
อีกตัวหนึ่งที่เป็นเครื่องมือในการสร้างผลตอบแทนในการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งนะครับที่เราควรจะศึกษาไว้
เพราะหากตลาดหุ้นซบเซาหรืออยู่ในช่วงขาลง DW -
Derivatives Warrant ก็ยังทำกำไรให้กับเราได้นะครับ เพราะ DW - Derivatives Warrant สารมารถทำกไรให้กับเราได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและในตลาดขาลงนั่นเองนะครับ
อยากฝากไว้นะครับว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้มากๆ ย้ำนะครับ
ศึกษาให้มากๆก่อนการลงทุนนะครับ
และขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสำเร็จในชีวิตทุกๆด้านของชีวิตนะครับ
ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุข เงินทองไหลมา เทมากันนะครับ หากคลิปนี้มีประโยชน์ ฝากกดไล กดแช กดติดตาม
กันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนพบกันไหม่ในคลิปต่อๆนะครับ
สวัสดีครับ...
บทความ : ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
FaceBook : https://www.facebook.com/CoachDolravee/
Blogger : https://www.Dolravee.com/
Blockdit : https://www.blockdit.com/coachdolravee/
Twitter : https://twitter.com/CoachDolravee
Instagram : https://www.instagram.com/CoachDolravee/
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
FaceBook : https://www.facebook.com/CoachDolravee/
Blogger : https://www.Dolravee.com/
Blockdit : https://www.blockdit.com/coachdolravee/
Twitter : https://twitter.com/CoachDolravee
Instagram : https://www.instagram.com/CoachDolravee/