ล้วงลึกคอร์รัปชัน บทสรุปถอดรหัสวิถีปราบโกง พลิกเกมสู่สังคมโปร่งใส | สังคมสุจริต ต้านคอร์รัปชัน ตอน 29

บทความนี้รวบรวมบทสรุปจาก Dolravee Slow Life Investor สังคมสุจริต ต้านคอร์รัปชัน ทั้งหมด 29 ตอน ที่สำรวจปัญหาการทุจริต (corruption) ในมิติต่าง ๆ — ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการเปลี่ยนแปลงเมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล บทความเน้นย้ำว่าการทุจริตเป็นปัญหาซับซ้อนฝังรากลึก ต้องการการแก้ไขแบบองค์รวมทั้งระดับนโยบาย สถาบัน และพฤติกรรมของพลเมืองนะครับ...

1. การนิยามและประเภทของการทุจริต

การทุจริตไม่ได้หมายถึงการติดสินบนเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมพฤติกรรมผิดทั้งทางกฎหมายและจริยธรรม เช่น

  • การทุจริตระดับสูง (Grand Corruption) : เจ้าหน้าที่ระดับสูงใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์มหาศาล ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและระบบการปกครอง
  • การทุจริตเล็กน้อย (Petty Corruption) : ข้อเสนอสินบน/ค่าบริการพิเศษจากเจ้าหน้าที่ล่างเพื่อให้บริการรวดเร็วขึ้น
  • การทุจริตทางการเมือง : ซื้อเสียง อุปถัมภ์ การใช้ทรัพยากรรัฐหาเสียง
  • การทุจริตในราชการและภาคธุรกิจ : Nepotism, cronyism, การยักยอก, insider trading
  • การทุจริตทางศาลและตำรวจ : การแทรกแซงการตัดสินใจ การรับสินบน
  • การทุจริตสิ่งแวดล้อมและสังคม : ปกปิดมลพิษ ขัดขวางการบังคับกฎหมายเพื่อผลประโยชน์

การจำแนกประเภทช่วยออกแบบมาตรการตอบโต้ที่ตรงจุด — แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มักทับซ้อนและแปรรูปได้ตามบริบท


2. ต้นตอและรากเหง้าของการทุจริต

การทุจริตเติบโตจากปัจจัยหลายด้านที่ผสานกัน

  • ปัจจัยเชิงระบบ : ขาดความโปร่งใส, นิติรัฐอ่อนแอ, สถาบันตรวจสอบไม่เข้มแข็ง
  • ปัจจัยทางวัฒนธรรม : ค่านิยมที่ให้น้ำหนักกับเครือข่ายส่วนตัวมากกว่ามาตรฐานสาธารณะ
  • ปัจจัยทางเศรษฐกิจ : ความเหลื่อมล้ำและค่าตอบแทนน้อยในภาคราชการ
  • ปัจจัยประวัติศาสตร์ : แบบแผนการบริหารที่สืบทอดจากอดีต (colonial legacy, patronage systems)

การแก้ต้องทั้งปฏิรูปสถาบันและเปลี่ยนค่านิยมทางสังคมควบคู่กัน


3. ผลกระทบ — มากกว่าแค่สูญเสียเงิน


การทุจริตทำลายฐานรากของสังคมในหลายมิติ

  • กัดกร่อนความไว้วางใจ ในสถาบันสาธารณะและการเมือง
  • ชะลอการพัฒนาเศรษฐกิจ ทรัพยากรถูกเบียดเบียนจากบริการสาธารณะ
  • ลดการลงทุนจากต่างประเทศ และทำให้ตลาดบิดเบี้ยว
  • บ่อนทำลายหลักนิติธรรม เพิ่มความเสี่ยงต่ออาชญากรรมและความรุนแรง
  • ทำลายประชาธิปไตย เมื่อการแข่งขันทางการเมืองไม่เป็นธรรม

กล่าวสั้น ๆ การทุจริตคือต้นทุนทางสังคมที่แพร่หลายและยาวนาน


4. การทุจริตในยุคดิจิทัล

เทคโนโลยีทั้งเป็นโอกาสและความเสี่ยง

  • สกุลเงินดิจิทัลและการฟอกเงิน : ทำให้การติดตามทรัพย์สินยากขึ้น
  • เว็บมืดและตลาดเถื่อน : ขยายพื้นที่การทำธุรกรรมผิดกฎหมาย
  • การละเมิดข้อมูลและสงครามข้อมูล : ข้อมูลเป็นสินค้าที่ถูกใช้ปั่นผลการเมือง
  • การโจมตีไซเบอร์และจารกรรมองค์กร : ทำลายความเชื่อมั่นและขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

การแก้ต้องอาศัยทักษะทางไซเบอร์ กฎหมายร่วมสมัย และมาตรการคุ้มครองข้อมูล


5. แนวทางการต่อต้านการทุจริต

บทความนี้จะรวบรวมบทเรียนจากสิงคโปร์ ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน เยอรมนี และประเทศอื่น ๆ โดยสรุปแนวทางสำคัญดังนี้ครับ

  • กรอบกฎหมายเข้มแข็ง และลงโทษที่มีประสิทธิผล
  • สถาบันตรวจสอบอิสระ (เช่น หน่วยสอบสวนพิเศษ อัยการผู้เชี่ยวชาญ) ที่ไม่ถูกแทรกแซงทางการเมือง
  • ความโปร่งใสของข้อมูลสาธารณะ เช่น งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง เปิดเผยได้
  • การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (whistleblowers) เพื่อกระตุ้นการเปิดเผย
  • ใช้เทคโนโลยี (AI วิเคราะห์ความผิดปกติ, blockchain ในการจัดซื้อ) เพื่อลดจุดเสี่ยง
  • การมีส่วนร่วมของพลเมืองและเยาวชน ให้ความรู้และพื้นที่ในการตรวจสอบ
  • ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสืบสวนข้ามพรมแดนและยึดทรัพย์


6. ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) — ทำไมสำคัญ

CPI เป็นเครื่องมือเปรียบเทียบระดับโลกที่ช่วยนักวิจัยและนโยบายในการวัดแนวโน้มการทุจริต ใช้ประเมินความเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคม และเป็นข้อมูลอ้างอิงในการออกแบบมาตรการ

7. ข้อคิดสำคัญ (Key Takeaways)

  • การทุจริตเป็นปัญหาเชิงระบบ ไม่ใช่ความผิดของบุคคลเดียว
  • การแก้ต้องผสานทั้งกฎหมาย สถาบัน เทคโนโลยี และการเปลี่ยนค่านิยม
  • เยาวชนและภาคประชาสังคมคือพลังเปลี่ยนแปลง
  • ความโปร่งใสและการตรวจสอบสาธารณะเป็นพื้นฐานของความยั่งยืน

 “โลกแห่งการคอร์รัปชั่น ศตวรรษที่ 21 … ในขณะที่สังคมก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิธีการและขนาดของคอร์รัปชันก็เช่นกัน”


 ข้อเสนอเชิงปฏิบัติ (สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ภาคประชาสังคม และประชาชน)

  • ปรับปรุงกฎหมายและระบบลงโทษให้ครอบคลุมความเสี่ยงใหม่ ๆ ทางไซเบอร์
  • ขยายกฎหมายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส และระบบรับเรื่องที่ปลอดภัย
  • เปิดข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐแบบเรียลไทม์ และใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบ
  • ส่งเสริมการศึกษาเชิงจริยธรรมตั้งแต่ระดับโรงเรียน
  • สนับสนุนแพลตฟอร์มที่ให้ประชาชนรายงานและตรวจสอบการทุจริต


เรามาสรุปและชวนคิดกันครับ


การต่อต้านการทุจริตไม่มีทางลัด — แต่มีแนวทางที่พิสูจน์ได้ว่าทำได้ เมื่อมีกฎหมายที่เหมาะสม สถาบันที่เข้มแข็ง เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด และพลเมืองที่พร้อมมีส่วนร่วม เราสามารถลดอคติทางอำนาจ และสร้างสังคมที่โปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้นได้

การต่อสู้กับคอร์รัปชันคือการลงทุนระยะยาวที่คืนผลในรูปแบบความไว้วางใจ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างเท่าเทียม — และทุกคนมีบทบาทในเกมนี้นะครับ

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

คนกล้าคืนถิ่น สานพลังชุมชน | คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.106


 “คนกล้าคืนถิ่น สานพลังชุมชน”

ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยความเปราะบางและความไม่แน่นอน หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยล้า สับสน หรือหลงลืมรากเหง้าของตนเอง แต่ยังมีผู้กล้าที่เลือก “กลับบ้าน” ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและศรัทธา

หนึ่งในนั้นคือ พี่เจน – กฤษณา โกรกสำโรง ประธานวิสาหกิจชุมชน ผักปลอดภัยในมือเราตามรอยพ่อ จังหวัดแพร่

 

จุดเปลี่ยนชีวิต


พี่เจนเกิดมาในครอบครัวเกษตรกร ภาพจำในวัยเด็กคือการช่วยพ่อแม่ทำนา ใส่ปุ๋ย พ่นยาฆ่าหญ้า เพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น จนดินเสื่อมโทรมและ “แม่ธรณี” ถูกทำร้าย

เธอเติบโตแล้วออกไปทำงานโรงงานในเมืองใหญ่ กระทั่งชีวิตพลิกผัน — ทั้งตัวเองที่ล้มป่วยด้วยโรคภูมิแพ้จากสารเคมี และคนรักที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ

การตัดสินใจ “กลับบ้าน” จึงไม่ใช่แค่การกลับไปหาครอบครัว แต่เป็นการกลับไป ดูแลตัวเองด้วยธรรมชาติบำบัด และเยียวยาแผ่นดินที่บอบช้ำ

จากผักกินเอง สู่พลังชุมชน


เริ่มแรก พี่เจนปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว แต่ผลผลิตที่เหลือทำให้เกิดการแบ่งปัน และต่อยอดสู่การจำหน่ายในชุมชน

ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นแม่ ๆ ผู้สูงอายุที่ว่างงานหรือรอเงินจากลูกหลานในเมือง ได้หันมาปลูกผักสวนครัวรอบบ้าน มีรายได้เสริมเล็ก ๆ และสุขภาพใจดีขึ้น โรคซึมเศร้าที่เคยเป็นปัญหาในชุมชนก็ค่อย ๆ บรรเทาลง

นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ วิสาหกิจชุมชนผักปลอดภัย ที่สร้างทั้งอาหารปลอดภัย รายได้ และกิจกรรมเยียวยาใจ


 การเปลี่ยนแปลง เริ่มจากตัวเรา


การโน้มน้าวให้ชาวบ้านหันมาเชื่อในเกษตรอินทรีย์ไม่ใช่เรื่องง่าย พี่เจนจึงเลือกเริ่มจาก การเปลี่ยนตัวเอง

เธอทำแปลงสาธิต ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ไม่พึ่งสารเคมี ทดลอง ปรับปรุง และแบ่งปันความรู้ ปุ๋ยหมักและกล้าไม้ก็เพาะเองแล้วแจกจ่ายให้คนในชุมชน

เมื่อผลผลิตงอกงามโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี ชาวบ้านจึงเริ่มเชื่อ และเข้ามาศึกษา ร่วมทดลอง จนกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ทั้งชุมชนมีส่วนร่วม


 ศักดิ์ศรีของการพึ่งพาตนเอง

พี่เจนบอกว่า “โตคนเดียว ไปได้ไว แต่ไปได้ไม่นาน โตกับชุมชน แม้จะไปช้า แต่ไปได้ไกล”

ทุกวันนี้ กลุ่มวิสาหกิจไม่เพียงสร้างรายได้ให้ชุมชน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เด็ก ๆ เยาวชนได้เข้ามาเรียนรู้ ใช้ความรู้ด้านไอทีทำตลาดออนไลน์ และสานต่อกิจการเพื่ออนาคต

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ชุมชนได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา — ความภูมิใจที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน


“ปลูกด้วยใจ ให้ด้วยรัก ฟูมฟักด้วยชุมชน”

นี่คือหัวใจของการคืนถิ่นของพี่เจน ที่ไม่ได้เพียงเปลี่ยนชีวิตตัวเอง แต่ยังปลุกพลังให้ทั้งชุมชน และส่งต่อความหวังให้ผืนแผ่นดิน


รายการ คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.106 | คนกล้าคืนถิ่น สานพลังชุมชน

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ออกอากาศ ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และรับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...


👉 นี่คือเรื่องราวจาก เวทีเสวนา “คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน” EP.106 หากอยากรับฟังบทสนทนาเต็ม ๆ สามารถติดตามได้จากรายการย้อนหลัง 🌱

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

WealthyCats ส่งพลังการเงินสู่เยาวชนและชุมชน คว้า iF Social Impact Prize 2025

 

ผลงานเพื่อเด็กไทยคว้ารางวัลระดับโลก!
“WealthyCats ส่งพลังการเงินสู่เยาวชนและชุมชน”
คว้า iF Social Impact Prize 2025 ยกระดับการเรียนรู้สู่เป้าหมาย SDGs อย่างยั่งยืน

คลิปวิดีโอประกอบด้วยบทสัมภาษณ์จากคุณครูอาสาหลายท่านที่แบ่งปันความสำคัญของการเรียนรู้ทางการเงินตั้งแต่วัยเด็ก, ภาพการอบรมครู, ภาพเด็กๆ กำลังเล่นเกมอย่างสนุกสนาน, และกราฟิกที่สรุปการเชื่อมโยงของโครงการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

โครงการ “WealthyCats ส่งพลังการเงินเพื่อเยาวชนและชุมชน” (ชื่อภาษาอังกฤษ WealthyCats: Play to Build Financial Resilience) โดย H ACADEMY วิสาหกิจเพื่อสังคมของไทย ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในผู้ชนะรางวัล iF Social Impact Prize 2025 ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่ยกย่องการออกแบบเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างยั่งยืน รางวัลนี้มอบให้แก่โครงการที่แสดงผลกระทบเชิงบวกอย่างชัดเจน WealthyCats ได้รับการคัดเลือกภายใต้หมวด SDG4 – คุณภาพการศึกษา (Quality Education) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals)

จากเกมสู่การเปลี่ยนชีวิต - “WealthyCats” คือ บอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้เรื่องการเงินแบบมีส่วนร่วมของคนไทย เนื้อหาการเรียนรู้ครอบคลุมตั้งแต่การหารายได้ ออมเงิน หลีกเลี่ยงหนี้ ไปจนถึงการวางแผนชีวิตอย่างรอบด้าน การเรียนรู้เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ  โดยเฉพาะการให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องเงินตั้งแต่ยังเด็ก เพราะช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่เขาเริ่มมีพฤติกรรมและทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเงิน หากเด็กได้เรียนรู้ตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อเกิดวิกฤต เขาจะมีภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับตัวเอง

โครงการใช้นวัตกรรมระบบ “หลักสูตรการเรียนรู้การเงินผ่านบอร์ดเกม” และ "ครูอาสาในชุมชน" ที่ผ่านการอบรมและรับรองเพื่อนำเกมไปขยายผลได้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 6 เดือนที่ผ่านมา โครงการได้สร้างครูอาสาแล้ว 30 คน และขยายผลสู่เด็กมากกว่า 1,000 คน ใน 16 จังหวัด เป้าหมายภายในปี 2570 คือการมี Certified Trainers 100 คน และเข้าถึงเยาวชน 50,000 คนทั่วประเทศ

ขับเคลื่อน 7 เป้าหมาย SDGs สู่ความยั่งยืน - แม้ WealthyCats จะได้รับรางวัลภายใต้ SDG4: คุณภาพการศึกษา แต่โครงการยังส่งเสริม SDGs อีก 6 เป้าหมายหลักคือ:

  • SDG1: ขจัดความยากจน – ปลูกฝังพฤติกรรมทางการเงินที่ช่วยหลุดพ้นจากวงจรหนี้
  • SDG8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ – สร้างพื้นฐานนิสัยการทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน
  • SDG9: นวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน – เป็นโมเดลการเรียนรู้ที่ขยายผลได้ง่ายและต้นทุนต่ำ
  • SDG10: ลดความเหลื่อมล้ำ – เข้าถึงเด็กในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนโอกาส
  • SDG12: การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ – สอนให้รู้จักใช้จ่ายอย่างมีสติ แยกแยะสิ่งจำเป็นและความอยากได้
  • SDG13: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ – ปลูกฝังนิสัยลดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือยเพื่อลดการพลังงานและทรัพยากรโลก

ขอแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีทั่วไทย - การขยายผลสู่เป้าหมาย 50,000 คนยังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน "ถ้าเด็กไทยมีความรู้เรื่องเงินตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้เขาจะไม่ตกอยู่ในวงจรหนี้หรือความยากจนอีกต่อไป” ทีมงาน H ACADEMY กล่าวเสริม 



ภาพถ่ายแสดงให้เห็นเด็กๆ และครูอาสากำลังเล่นบอร์ดเกม "WealthyCats" ในบรรยากาศที่สนุกสนานและมุ่งมั่น พร้อมโลโก้รางวัล iF Social Impact Prize 2025 และเป้าหมาย SDG4 ซึ่งแสดงถึงการนำโครงการไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ต่างๆ


  • ชื่อโครงการ: WealthyCats ส่งพลังการเงินเพื่อเยาวชนและชุมชน

  • ผู้จัดทำ: H ACADEMY วิสาหกิจเพื่อสังคมของไทย ชื่อเต็ม บริษัททีมเอชอีสแฮปปี้ จำกัด (ทะเบียนวิสาหกิจเพื่อสังคมเลขที่ 335)

  • ประเภทโครงการ: บอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้เรื่องการเงิน

  • รางวัลที่ได้รับ: iF Social Impact Prize 2025

  • หมวดหมู่รางวัล: SDG4 – คุณภาพการศึกษา

  • เป้าหมาย SDGs ที่สนับสนุน: SDG1, SDG4, SDG8, SDG9, SDG10, SDG12, และ SDG13

  • ผลการดำเนินงาน (ภายใน 6 เดือน)

    • สร้างครูอาสาแล้ว 30 คน

    • ขยายผลสู่เด็กมากกว่า 1,000 คน ใน 16 จังหวัด

  • เป้าหมายในอนาคต (ภายในปี 2570): มี Certified Trainers 100 คน และเข้าถึงเยาวชน 50,000 คน

     

ข้อมูลติดต่อ

  • สำหรับร่วมสนับสนุนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ภาณุพันธ์ นันทปรีดาวัฒน์ โทร. 099 464 5592 win@hacademyasia.com 

  • เว็บไซต์: www.hacademyasia.com

Society 5 0 การพัฒนาตนเอง และชุมชน ที่ยั่งยืนเพื่อความอยู่รอด | คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.80

ในยุคที่โลกแห่งความจริงและโลกไซเบอร์หลอมรวมกันอย่างแนบแน่น มนุษย์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “Society 5.0” — ยุคที่เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI, หุ่นยนต์, IoT และ Big Data ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการพัฒนาสังคม

เวทีเสวนาในรายการ “คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.80” ได้จุดประกายแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองและชุมชนให้สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสังคม 5.0 เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

🌐 Society 5.0 คืออะไร?

Society 5.0 คือยุคที่ เทคโนโลยีขั้นสูงผสานกับชีวิตมนุษย์ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization at Scale) ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ปรับแต่งได้เฉพาะบุคคล การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพชีวิต หรือการพึ่งพาหุ่นยนต์ในงานบ้าน งานบริการ และการผลิต

แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ต้องระวังกับภัยรูปแบบใหม่ เช่น Deepfake หรือการใช้ AI หลอกลวง ที่ทำให้โลกเสมือนกับโลกจริงแทบจะแยกไม่ออก

“โลก ณ ปัจจุบันเนี่ย มันแยกออกจะกันยาก ระหว่างเรื่องไหนที่เป็นของจริง หรือของเสมือนจริง”


🧠 พัฒนาตนให้รอดในยุค AI ด้วยโมเดล 3H (Head – Hand – Heart)

อ.บอล ศศิวัฒน์ หอยสังข์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เสนอโมเดลการพัฒนาตนเองที่เข้าใจง่ายแต่ทรงพลัง

1. Head (ความคิด)

  • Fail Fast Forward*: เรียนรู้ไว ล้มเร็ว ลุกไว
  • Business First*: คิดเป็นระบบ เห็นภาพรวมและคุณค่าของสิ่งที่ทำ


2. Hand (การปฏิบัติ)

  • Strength-based : ใช้จุดแข็งของตัวเองและทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • Learning Style : ปรับวิธีเรียนรู้ให้เหมาะกับตนเอง


3. Heart (หัวใจ/จิตวิญญาณ)

  • Resilience : อดทน ฟื้นตัวไวในภาวะไม่แน่นอน
  • Principle & Drive : ยึดหลักการ ไม่ทิ้งอุดมการณ์ พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น


📚 โมเดล 70-20-10 : สูตรลับการเรียนรู้ยุคใหม่

“การเรียนรู้ที่แท้จริงเกิดจากการลงมือทำ ไม่ใช่แค่นั่งฟังหรืออ่านหนังสือ”


  • 70% เรียนรู้จากการ ลงมือทำจริง
  • 20% เรียนรู้จากการ แลกเปลี่ยนกับผู้อื่น
  • 10% เรียนรู้จากการ เรียนในห้องเรียนหรือฟังบรรยาย


🏡 จากปัจเจกสู่ชุมชน : การประยุกต์ใช้ Society 5.0 อย่างยั่งยืน

🔹 ดิน น้ำ ลม ไฟ : ธรรมชาติของชุมชนที่สมดุล

  • ดิน : รากเหง้า ภูมิปัญญาเดิม
  • น้ำ : ความเย็นสบายและบริการ
  • ลม : ความสัมพันธ์ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน)
  • ไฟ : ความทันสมัย นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนา


🔹 AI ช่วยชุมชนได้

AI ไม่ใช่แค่ของเมืองใหญ่—แต่สามารถช่วยวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน เลือกแนวทางพัฒนาที่ตรงจุด เช่น การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ หรือวางแผนพัฒนาท้องถิ่น

🔹 รวมพลังคนต่างรุ่น

การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนเกิดขึ้นได้เมื่อ ภูมิปัญญารุ่นเก่า รวมพลังกับ เทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่ แต่ละวัยมีจุดแข็งเฉพาะ และควรเรียนรู้จากกันและกัน

🔹 มหาวิทยาลัยชาวบ้า

พื้นที่แห่งการเรียนรู้จากชุมชน สะสมองค์ความรู้ท้องถิ่นที่สถาบันการศึกษาอาจมองข้าม แต่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

❤️ ใจ คือรากฐานสำคัญของการพัฒนา

แม้โลกจะเข้าสู่ยุค AI เต็มรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่เทคโนโลยีไม่อาจแทนที่ได้คือ "หัวใจมนุษย์" ความรัก ความรู้สึก ความเห็นอกเห็นใจ คือคุณค่าที่แท้จริงในการอยู่ร่วมกัน

“AI ยังไงก็ไม่ได้...ฉันรักเธอแบบสุดๆ...อะไรที่อยู่ข้างในลึกๆ AI แทนไม่ได้”


🧘 Mindfulness Organization : ความสุขเริ่มต้นที่องค์กรและตนเอง

แนวคิดองค์กรที่นำธรรมะมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายการทำงานและความสุขของผู้คน เป็นรากฐานสำคัญขององค์กรในโลกสมัยใหม่

บทสรุป : พัฒนา "ใจ" ให้ทันโลก

โลกเปลี่ยนเร็ว แต่ใจเราต้องนิ่ง มั่นคง และพร้อมปรับตัว การพัฒนาไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ต้องเป็นการพัฒนาทั้ง *หัว* *มือ* และ *หัวใจ* ไปพร้อมกัน

อย่าลืมว่า...

“เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ เราท้าทายมันด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเอง” – วิกเตอร์ แฟรงคล์
“ความรู้ยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม”
“จงพัฒนาความหลงใหลในการเรียนรู้ เพราะถ้าหากคุณทำได้ คุณจะไม่มีวันหยุดพัฒนา” – แนนซี่ เจ. เดอริส จิโร

 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
เพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz

Society 5 0 การพัฒนาตนเอง และชุมชน ที่ยั่งยืนเพื่อความอยู่รอด ตอน 1


 Society 5 0 การพัฒนาตนเอง และชุมชน ที่ยั่งยืนเพื่อความอยู่รอด ตอน 2


บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน


คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

 

ชีวิตจริงของกะเทยชาวนา! โอวา ข้าวเงินล้านจาก TikTok | คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

 


โอวา กะเทยชาวนา กับบทเรียนชีวิต "ข้าวเงินล้าน"
ที่ไม่ได้ปลูกแค่ในนา แต่ในใจคนไทยทั้งประเทศ


หากพูดถึงภาพของ “กะเทยชาวนา” หลายคนอาจนึกไม่ออกว่าจะเชื่อมโยงกับคำว่า “เจ้าของธุรกิจข้าวเงินล้าน” ได้อย่างไร แต่สำหรับ “โอวา” แล้ว เธอคือภาพแทนของความกล้า ความจริงใจ และการไม่ยอมแพ้ ที่สามารถปลูกความฝันให้เติบโตได้ท่ามกลางคำดูถูก ความคาดหวัง และข้อจำกัดของสังคม

บทสัมภาษณ์ของคุณโอวาคือเส้นทางชีวิตที่มากกว่าการทำธุรกิจข้าว แต่คือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่กำลัง “ตามหาความหมายของตัวเอง”

1. Connecting the Dots – สร้างจุดวันนี้เพื่อโอกาสวันหน้า

โอวาหยิบแนวคิด "Connecting the Dots" ของ Steve Jobs มาขยายความในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ใช่การพยายามคาดเดาอนาคต แต่คือการ “ลงมือทำทุกอย่างที่ทำได้ในวันนี้” เพื่อสร้างจุดที่หลากหลายให้อนาคตเชื่อมโยงได้

"วันนี้เราทำอะไรได้ก็ทำไว้ให้มากที่สุด เพราะอนาคตมันไม่แน่นอน แต่จุดที่เราสร้างไว้ จะกลายเป็นทางเลือกให้เราในวันข้างหน้า"

แม้ TikTok จะถูกมองว่าไร้สาระ แต่สำหรับโอวา มันคือ "ดอกใหญ่" ที่งอกงามจากความตั้งใจในการสร้างเนื้อหา ถ่ายทอดเรื่องราว และสร้าง Trust กับลูกค้าอย่างแท้จริง


2. บริหารชีวิตก่อนบริหารเงิน

ความสำเร็จของโอวาไม่ได้มาจากแค่การขายได้ แต่เพราะเธอรู้จัก “บริหารชีวิต” เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่เกินควบคุม

"การบริหารจัดการชีวิตตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง มันสำคัญไม่แพ้การหาเงิน"

เธอไม่ได้พยายามเอาชนะปัญหาทั้งหมดในชีวิต แต่เรียนรู้ว่าจะ “อยู่กับมันอย่างไม่ทุกข์” และแก้ได้เท่าที่จำเป็น


3. เรียนเก่งไม่พอ ต้องเลือกสังคมเก่งด้วย

ช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยของโอวาเต็มไปด้วยงานหนัก แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เธอสร้าง Connection สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน กัลยาณมิตร หรือแนวคิดดี ๆ ที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธอในวันนี้

"ถ้าเพื่อนเราเรียนดี เราจะฟอร์มตัวเองให้เป็นแบบนั้น ถ้าเพื่อนมีพลังบวก เราก็จะเป็นแบบนั้นด้วย"

เธอเรียนจบภายใน 3 ปีครึ่งเพื่อลดภาระ และเลือกงานสอนพิเศษที่มีรายได้มากพอจะเลี้ยงตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้เรียนจบก่อนถึงจะเริ่มสร้างตัว


4. ขายของไม่ต้องยิงแอด ขอแค่ “จริงใจ”

จุดเด่นของโอวาคือการใช้ Social Media อย่างชาญฉลาด เธอไม่ได้ใช้เงินโฆษณา แต่ใช้ “ความจริงใจ” และ “การเล่าเรื่อง” เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้า

"Trust มันไม่ได้มาจากเราฝ่ายเดียว แต่มาจากลูกค้าที่ได้ลองแล้วกลับมาซื้อซ้ำ"

โอวาเลือกใช้คำว่า “ปลอดสาร” แทน “อินทรีย์ 100%” เพราะเธอไม่อยากหลอกลวงลูกค้า และเชื่อว่า “พูดความจริง เราจะไม่ต้องกลัวอะไรเลย”

เมื่อเจอปัญหา เช่น บัญชี Facebook ถูกบล็อก เธอก็ไม่รอช้า รีบสร้างเพจใหม่และแก้ปัญหาในวันนั้นทันที เพราะในโลกธุรกิจ "ช้าเท่ากับแพ้"

"เราอาจไม่ใช่ปลาใหญ่ แต่เราคือปลาเล็กที่ว่ายน้ำเร็ว"


5. ชีวิตส่วนตัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่เข้าใจได้

เบื้องหลังความสำเร็จ มีความเจ็บปวดจากครอบครัว ความคาดหวัง และความไม่เข้าใจที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก

เธอเคยถูกบูลลี่ โดนกีดกัน และแม้แต่ในโรงเรียนก็เคยถูกลงโทษเพียงเพราะเป็นกะเทย แต่วันหนึ่ง เมื่อเธอได้ไปเข้าค่ายจุฬาชนบท และได้เจอสังคมที่ยอมรับ เธอจึงรู้ว่าคนแบบเธอมีที่ให้ยืนอยู่จริง ๆ

"ไม่มีใครอยากเป็นสิ่งที่สังคมไม่ให้เกียรติ แต่เมื่อเจอคนที่เคารพเราในสิ่งที่เราเป็น เราก็เริ่มเคารพตัวเอง"


6. ใช้ “ความเป็นตัวตน” ให้เป็นพลัง

ในโลกออนไลน์ คุณโอวาใช้ “ความเป็นกะเทย” ไม่ใช่จุดด้อย แต่คือเอกลักษณ์ในการสร้างแบรนด์ ใช้เสียง ภาพลักษณ์ บุคลิก และวิถีชีวิตจริง สื่อสารกับลูกค้าอย่างจริงใจ

"กะเทยไม่ต้องเป็นแค่สายฮา เราขายความจริงใจ ความตั้งใจ และความเป็นมืออาชีพได้เหมือนกัน"

💡 ข้อคิดจากโอวา กะเทยชาวนา

  • อย่ารอให้ทุกอย่างพร้อม เริ่มลงมือจากสิ่งที่ทำได้วันนี้
  • ความสำเร็จไม่ใช่ปลายทางของแผนที่ แต่คือการต่อจุดจากทุกประสบการณ์
  • ความจริงใจขายได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะขายข้าวหรือขายความฝัน
  • สังคมที่ดีคือแรงผลักดัน เลือกอยู่ในที่ที่เติมไฟให้เรา
  • ตัวตนไม่ใช่สิ่งที่ต้องเปลี่ยน แต่คือสิ่งที่ต้องภูมิใจ


โอวาอาจไม่ได้ปลูกข้าวที่ดีที่สุดในโลก แต่เธอปลูก “ความหวัง” และ “พลังใจ” ให้กับคนอีกมากมายว่า...

"ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ขอแค่จริงใจ และกล้าจะเดินในเส้นทางของตัวเอง ก็สามารถเป็นเจ้าของ ‘ข้าวเงินล้าน’ ได้เหมือนกัน"

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน


คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

IKIGAI อิคิไก EP.6 | ความต่างระหว่าง อาชีพ vs พันธกิจ vs วิถีชีวิต

 


อิคิไก : ความต่างระหว่าง “อาชีพ vs พันธกิจ vs วิถีชีวิต” กับสิ่งที่หัวใจต้องการจริง ๆ

“คุณกำลังใช้ชีวิต.. หรือแค่ใช้ชีวิตเพื่อไปทำงาน?”


ในยุคที่ทุกคนวิ่งหาความสำเร็จ มีเงิน มีงาน มีหน้าที่ แต่กลับรู้สึก เหนื่อย-ว่างเปล่า-ไม่มีแรงบันดาลใจ อาจถึงเวลาที่คุณต้องหันมาถามตัวเองว่า...

 ❝ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน...คือ ‘Ikigai’ หรือแค่ ‘อาชีพ’? ❞


Ikigai คืออะไร?

อิคิไก (Ikigai)คือแนวคิดญี่ปุ่นที่แปลว่า

 “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่” หรือ “คุณค่าที่ทำให้เราลุกจากเตียงทุกเช้า”

หลายคนเข้าใจผิดว่า Ikigai = งานในฝัน แต่ความจริงคือ...
Ikigai มากกว่าแค่งาน มากกว่าเงิน และลึกซึ้งกว่านั้น

เปรียบเทียบให้ชัด Ikigai ต่างจากอาชีพ พันธกิจ และวิถีชีวิตอย่างไร?


คุณกำลังติดกับ "อาชีพที่ไม่มีจิตวิญญาณ" อยู่หรือไม่?

  • คุณรู้สึกเบื่อกับงานที่เคยชอบไหม?
  • คุณเคยถามว่า “นี่คือทั้งหมดของชีวิตจริงหรือ?”
  • คุณทำงานเก่ง แต่ไม่รู้สึกภูมิใจเลยใช่ไหม?

ถ้าคุณตอบว่า “ใช่” สักข้อ... แปลว่าคุณอาจกำลังใช้ชีวิตห่างจาก Ikigai ของตัวเองอยู่

Ikigai คือการ "หลอมรวม" ที่สมดุล

Ikigai คือการรวม...

  • สิ่งที่คุณ รัก
  • สิ่งที่คุณ เก่ง
  • สิ่งที่โลก ต้องการ
  • สิ่งที่คุณ หาเลี้ยงชีพได้

จุดตัดตรงกลางของทั้ง 4 สิ่งนี้ คือ “พลังชีวิต” ที่แท้จริงของคุณ ไม่ใช่แค่งาน ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คือ ตัวคุณ ในแบบที่เต็มไปด้วยความหมาย

วิธีค้นหา Ikigai ของคุณ

1. เขียน 4 คอลัมน์: รัก | เก่ง | โลกต้องการ | ทำแล้วได้เงิน
2. มองหาจุดที่ “ทับซ้อน” และ “เรารู้สึกมีพลัง” ที่สุด
3. เริ่มจากเล็ก ๆ เช่น งานอดิเรก แล้วขยายต่อยอด
4. พูดคุยกับคนที่ใช้ชีวิตแบบมี Ikigai แล้วคุณจะเห็นภาพชัดขึ้น

สรุป : อย่าใช้ชีวิตแค่เพื่อ "อยู่รอด"


คุณเกิดมาเพื่อ มากกว่าแค่ทำงานและจ่ายบิล คุณเกิดมาเพื่อใช้พลังชีวิตในแบบที่เป็นคุณที่สุด

  • อาชีพอาจเลี้ยงชีวิต
  • พันธกิจอาจเติมเต็มหัวใจ
  • วิถีชีวิตอาจให้ความสุข

แต่ Ikigai คือการรวมทั้งหมดนี้...ให้กลายเป็นตัวคุณที่แท้จริง

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน


คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

IKIGAI อิคิไก EP.5 | แนวคิดพื้นฐานของ Ikigai เหตุผลของการมีชีวิตอยู่


 แนวคิดพื้นฐานของ Ikigai เหตุผลของการมีชีวิตอยู่

"คุณมีเหตุผลอะไรในการตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน?"
ถ้าคำตอบคือแค่ “ต้องไปทำงาน”… คุณอาจยังไม่รู้จัก อิคิไก (Ikigai)

Ikigai(อิคิไก) คือแนวคิดจากประเทศญี่ปุ่นที่หมายถึง "เหตุผลของการตื่นขึ้นมาในตอนเช้า" หรือ "สิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย" แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแง่ของงานหรือความสำเร็จทางวัตถุ แต่ครอบคลุมถึงความสุข ความสงบ และการใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมายในแต่ละวัน

Ikigai คืออะไร?

คำว่า Ikigai มาจากภาษาญี่ปุ่น 2 คำ คือ

  • 「อิคิ (生き)」แปลว่า "การมีชีวิตอยู่"

  • 「ไก (甲斐)」แปลว่า "คุณค่า" หรือ "เหตุผล"

Ikigai (อิคิไก) คือแนวคิดญี่ปุ่นที่แปลว่า

"เหตุผลของการมีชีวิตอยู่" หรือพูดง่าย ๆ คือ “เหตุผลที่ทำให้คุณลุกจากเตียงในตอนเช้า”

ในโลกที่หมุนเร็ว เต็มไปด้วยความเครียด เป้าหมายปลอม ๆ และการเปรียบเทียบไม่รู้จบ Ikigai คือเครื่องเตือนใจว่า...

“ชีวิตที่ดี ไม่ใช่แค่การอยู่รอด แต่คือการอยู่เพื่อสิ่งที่มีความหมายกับหัวใจของเรา”

เมื่อรวมกัน Ikigai จึงหมายถึง "เหตุผลที่ทำให้เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปในทุกวัน" นั่นอาจเป็นสิ่งเล็กน้อย เช่น การรดน้ำต้นไม้ การดื่มกาแฟตอนเช้า หรือการได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว

องค์ประกอบ 4 ด้านของ Ikigai

เมื่อทั้ง 4 สิ่งนี้มาบรรจบกัน นั่นคือ “อิคิไก” ของคุณ

 ทำไม Ikigai ถึงทรงพลัง?

  • เพราะมันไม่ใช่แค่ “เป้าหมายชีวิต” แบบตะวันตกที่เน้นความสำเร็จภายนอก

  • แต่มันคือ “หัวใจของชีวิต” ที่เชื่อมโยงความสุขภายในกับโลกภายนอก 

    คนที่มี Ikigai ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย แต่พวกเขามีความสุข มีพลัง และรู้สึกว่าชีวิตนี้ “มีค่า” จริง ๆ

จะเริ่มต้นค้นหา Ikigai ได้อย่างไร?

  1. จดสิ่งที่คุณรักและทำแล้วมีพลัง

  2. ถามคนใกล้ตัวว่าเราถนัดเรื่องอะไร

  3. มองหาสิ่งที่สังคมหรือชุมชนต้องการจากเรา

  4. วิเคราะห์ว่าเราทำสิ่งนั้นให้เกิดรายได้ได้อย่างไร

ลองเขียนเป็น Mind Map หรือ Journal ง่าย ๆ แล้วคุณจะเริ่มเห็นเส้นทางของ Ikigai ชัดเจนขึ้นในใจ

Ikigai ไม่ต้องยิ่งใหญ่...แต่ต้องจริง

Ikigai อาจไม่ใช่การเปลี่ยนโลก แต่คือการเปลี่ยน “โลกภายใน” ของเรา บางคนพบ Ikiga จากการสอนเด็กยากจน บางคนพบมันในกาแฟแก้วเล็กทุกเช้า บางคนพบมันในการดูแลพ่อแม่ที่ชรา

“ไม่ต้องวิ่งเร็วที่สุด...แค่รู้ว่าเรากำลังเดินไปทางไหน ก็เพียงพอแล้ว”


Ikigai ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่

หลายคนเข้าใจผิดว่า Ikigai ต้องเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น ภารกิจเปลี่ยนโลก หรือเป้าหมายระดับชีวิต แต่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น Ikigai สามารถเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่เติมเต็มหัวใจ เช่น

  • การปลูกผักกินเอง

  • การอ่านหนังสือเล่มโปรด

  • การได้ช่วยเหลือผู้อื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ

Ikigai จึงไม่ใช่เป้าหมายไกลตัว แต่คือการอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความหมาย


การค้นหา Ikigai เป็น "การเดินทาง"

การจะพบ Ikigai ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็น การสังเกต สำรวจ และเรียนรู้ตัวเองอย่างต่อเนื่องลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้

  • ฉันมีความสุขที่สุดเมื่อทำอะไร?

  • ฉันถนัดหรือมีพรสวรรค์ด้านไหน?

  • ผู้คนรอบตัวฉันต้องการอะไร?

  • ฉันสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ฉันรักให้เป็นรายได้ได้ไหม?


โดยสรุป Ikigai คืออะไร?

  • Ikigai คือ เหตุผลในการมีชีวิต

  • คือจุดตัดของ สิ่งที่คุณรัก, ถนัด, โลกต้องการ, และ เลี้ยงชีพได้

  • ช่วยให้ชีวิตคุณมีความสุข มีคุณค่า และไม่หลงทางในโลกที่เร่งรีบ

เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ในใจ

  • Ikigai คือเหตุผลของการมีชีวิต

  • ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่หรือเป็นอาชีพ

  • เกิดจากจุดตัดของความรัก ความสามารถ ความต้องการของโลก และรายได้

  • ค้นหาได้จากการใช้ชีวิตอย่างตั้งใจ

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน


คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

บทความที่ได้รับความนิยม