แน่นอนนะครับว่าในหลักการการลงทุนในหุ้นนั้น มันจะต้องมีตัวสินค้า ที่เราจะมาซื้อขายกัน นั้นก็คือ หุ้น นั้นเอง... และหุ้นคือตราสารทุนชนิดหนึ่งนั้นเอง…แล้วหุ้นนั้นมาจากไหน ทำไมถึงเอามาซื้อขายกัน ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆนะครับว่า สมมุติว่าเรามีความคิดที่จะเปิดกิจการโดยเริ่มจากที่เราจะทำโครงการขึ้นมาสักหนึ่งโครงการ ซึ่งคุณมีความถนัด และมีความเชื่อมั่นว่าโครงการของบริษัทของคุณนี้จะสร้างผลกำไรให้กับคุณในอนาคต สมมุติเอาง่ายๆเลยนะครับว่า เป็นโครงการการผลิตไอศกรีมทอด ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุน 10 ล้าบาท และเงินจำนวนนี้จะไปเป็นเงินลงทุนในบริษัทของคุณเอง และเงินจำนวนนี้จะไปซื้อ เครื่องจักร ก่อสร้างโรงงาน ซื้อวัถุดิบ และอื่นๆ จิปาถะ...
ทั้งนี้การจ่ายเงินจำนวนนี้จะต้องถูกจ่ายออกไปจากบริษัทของคุณเองไม่ไช่การจ่ายจากตัวคุณเอง ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าคุณเอาเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่คุณมี ไปซื้อหุ้นของบริษัทของคุณเองและคุณก็ได้หุ้นมาถือครอง...
เนื่องจากตามกฎหมาย บริษัท ก็คือ นิติบุคคล พูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือทำหน้าที่เป็นตัวแทน ของเรานั้นเองนะครับ เพราะว่า บริษัทจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากการลงทุนโดยการนำเงินของเราเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัท ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ในที่นี้บริษัทของคุณได้จดทะเบียนไว้ที่ 10 ล้านบาท ที่ได้มาจากเงินที่คุณไปซื้อหุ้นของบริษัทนั้นเอง และเงิน 10 ล้านบาทนี้ละ ที่จะนำไปแบ่งออกเป็นหุ้น ในที่นี้ผมขอสมมุติว่าบริษัทของคุณขายหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท ก็เท่ากับว่า ในเงินลงทุน 10 ล้านบาทของคุณจะซื้อหุ้นได้ในจำนวน 1 ล้านหุ้น นั้นเอง และในตอนนี้คุณก็เอาเงิน 10 ล้านบาทของคุณ ไปซื้อหุ้น จำนวน 1 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท เท่ากับว่าคุณได้จ่ายเงินซื้อหุ้นบริษัทของคุณเองเป็นเงิน 10 ล้านบาท และๆได้หุ้น 1 ล้านหุ้นของบริษัทของคุณมาถือครองนั้นเอง...
มาถึงตอนนี้ เราจะได้หุ้นมาแล้ว 1 ล้านหุ้น และจำนวน 1 ล้านหุ้นตรงนี้ละ ที่เราจะเอามาซื้อขายกันนั้นเอง...โดยที่บริษัทของคุณไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรอีกแล้วว่าหุ้นที่ขายออกไปจะไปอยู่กับใครบ้างบริษัทก็ดำเนินงานของบริษัทต่อไปตามวัตถุประสงค์ จากเงินลงทุน 10 ล้านบาทที่ได้จากการขายหุ้น 1 ล้านหุ้นมาแล้วนั้นเอง ถึงตรงนี่คงจะถึงบางอ่อกันแล้วนะครับว่าหุ้นที่เขาซื้อขายกันมันมาจากไหน เห็นไหมว่ามันเข้าใจไม่อยากเลย...
และมาถึงตรงนี้เราจะมาดูว่าเขาซื้อขายกันอย่างไรในตอนนี้คุณได้มีหุ้นอยุ่ในมือแล้ว จำนวน 1 ล้านหุ้นนะครับ ซึ่งในหุ้นจำนวนนี้มันคือ ทรัพย์สินของคุณ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และยังเป็นเจ้าของบริษัทผลิตไอศกรีมทอดตามสัดส่วนหุ้นที่คุณถืออยู่ 100% ในที่นี้ คือ 1 ล้านหุ้น และบริษัทได้ดำเนินงานตอ่ไปเรื่อยๆ และมีผลกำไรมากขึ้นเรื่อยๆ
และต่อมาวันหนึ่งได้มีนักลงทุนได้สนใจในบริษัทผลิตไอศกรีมทอดของคุณ และสนในอยากจะขอเข้าซื้อกิจการของคุณ เพราะนักลงทุนผู้นี้ได้เล็งเห็นว่าธุรกิจนี้น่าสนใจและจะสร้างผลกำไรให้กับเขาเองในอนาคตได้ ซึ่งตอนก่อตั้งบริษัทนั้น บริษัทได้กำหนดราคาหุ้นไว้ที่ 10 บาทต่อหุ้น และในตอนนี้ มูลค่าหุ้นได้เพิ่มขึ้นจากกิจการที่เติบโตขึ้นและมีผลกำไรมากขึ้น และสมมุตินักลงทุนได้เสนอซื้อหุ้นจากคุณในราคาหุ้นละ 20 บาท ถ้าหากคุณขายไปในราคาหุ้นละ 20 บาท 1 ล้านหุ้นที่คุณมี ก็เท่ากับว่า คุณจะได้เงินทั้งหมด 20 ล้านบาท นั้นหมายความว่าคุณ ได้กำไรจากการขายหุ้น 100 % คือ 10 ล้านบาท เพราหุ้นคือทรัพย์สินที่มีมูลค่าของคุณนั้นเอง แต่การซื้อขายหุ้นนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงตามความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งอาจจะมีราคามราคามากกว่าหรือถูกกว่าหุ้นละ 20 บาทก็ได้ ถึงตรงนี้คงเข้าใจเบื้องต้นกันแล้วนะครับว่า หุ้นมาจากไหนแล้วเขาทำกำไรและซื้อขายกันอย่างไร...
มาถึงตรงนี้คงจะมีความสงสัยกันไช่ไหมครับว่าแล้วหุ้นที่เขาซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ละ มันมาอย่างไร และทำไมซื้อขายกันได้ แล้วทำไมต้องซื้อผ่านโบรกเกอร์ ที่จริงแล้วหลักการของหุ้นเป็นไปตามที่ผมอธิบายมาข้างต้นนั้นละครับ เพียงแต่ว่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มันมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาก็คือ ในการที่เจ้าของบริษัทจะเอาบริษัทของตนเองไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ และได้เสนอขายหุ้นให้กับบุคคลทั่วไป โดยที่เจ้าของกิจการ สามารถนำหุ้นที่ตนเองมีอยู่ ออกมาแบ่งขายให้กับประชาชนทั่วไป หรือใช้วิธีเพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้น แต่ในกรณีที่เพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้นจะทำไห้เจ้าของกิจการมีทรัพย์สินที่ลดลง เพราะแบ่งขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมากนั้นเอง ซึ่งเราจะเห็นชื่อบริษัทเหล่านี้ จะเป็น “บริษัทมหาชน” ที่เราคุ้นหูกัน และการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นจำเป็นจะต้องซื้อขายผ่านโบรกเกอร์นั้นเอง...
ซึ่งประชาชนทั้วไปสามารถเข้าไปซื้อหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการร่วมตามสัดส่วนหุ้นที่ตนถือครองอยู่และนี่ละที่เขาเรียกกันว่า การลงทุนในหุ้น หรือบางท่านเรียกว่าการเล่นหุ้น นั้นเอง ซึ่งผู้ที่เข้าไปถือครองหุ้นจะได้รับ ผลตอบแทน 2 ทาง คือ
1. กำไรจากการดำเนินกิจการ คือจะได้รับเงินปันผลจากผลกำไรของกิจการ ในกรณีที่บริษัทมีผลกำไร
2. จะได้ค่าส่วนต่างราคาหุ้น ในกรณีที่ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น และเราทำการขาย เพื่อรับกำไรส่วนต่างราคาหุ้นที่สูงขึ้น นั้นเอง ...
มาถึงตรงนี้คงเข้าใจกันแล้วนะครับว่า หุ้นมาจากไหน และสร้างผลตอบแทน กำไรกันอย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้อต้นเพื่อให้มือใหม่เข้าใจที่มาของหุ้นกันมากขึ้นนะครับ...แท้จริงแล้วการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงและมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย จึงจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันตลอดเวลานะครับ เพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง...
สำหรับวันนี้ของตัวลาไปก่อนแล้วพบกับผมใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับ สำหรับท่านใดมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมสามารถฝากข้อความไว้ได้เลยนะครับ และผมจะไปค้นหาคำตอบมาให้ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน ของให้ท่านมีความสุขกาย สบายใจ เงินทองไหลมาเทมากันนะครับ สวัสดีครับ…..
Article by : ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
FaceBook : https://www.facebook.com/CoachDolravee/
Blogger : https://www.Dolravee.com/
Twitter : https://twitter.com/CoachDolravee
Instagram : https://www.instagram.com/CoachDolravee/
G+ : https://plus.google.com/+CoachDolravee
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
FaceBook : https://www.facebook.com/CoachDolravee/
Blogger : https://www.Dolravee.com/
Twitter : https://twitter.com/CoachDolravee
Instagram : https://www.instagram.com/CoachDolravee/
G+ : https://plus.google.com/+CoachDolravee