บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างหลักพุทธปรัชญาอันเป็นแก่น
ได้แก่ อริยสัจ 4, ไตรลักษณ์ และอนัตตา
กับการออกแบบสถาปัตยกรรมและผังชุมชนแบบดั้งเดิมของไทย
โดยใช้วิธีการวิเคราะห์และสังเคราะห์เนื้อหาจากการบรรยายของ รองศาสตราจารย์
ดร. วันชัย มงคลประดิษฐ์
เพื่อสถาปนากรอบแนวคิดที่เชื่อมโยงมิติทางธรรมเข้ากับมิติทางกายภาพ
ผลการวิเคราะห์เผยให้เห็นว่าสถาปัตยกรรมไทยแต่โบราณมิได้เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างเพื่อประโยชน์ใช้สอย
แต่ถูกรังสรรค์ขึ้นในฐานะ "มณฑลชีวิต" (Mandala of Life)
ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้พัฒนาสภาวะ
"โพธิจิต" หรือจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบาน
อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของสุขภาวะทางจิตวิญญาณ
กรอบแนวคิดพุทธสถาปัตยกรรมนี้มีศักยภาพในการเป็นคำตอบที่ลึกซึ้งและยั่งยืนสำหรับวิกฤตทางจิตวิญญาณและความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมร่วมสมัย
ซึ่งมักมุ่งเน้นเพียงมิติทางวัตถุจนละเลยความสมดุลภายใน
จากวิกฤตสถาปัตยกรรมสมัยใหม่สู่ปัญญาแห่งพุทธวิถี
สถาปัตยกรรมในยุคปัจจุบันมักถูกครอบงำด้วยกระบวนทัศน์แบบตะวันตก ที่มุ่งเน้นการตอบสนองประโยชน์ใช้สอย (Function) รูปทรง (Form) และสุนทรียศาสตร์ (Aesthetics) เป็นสำคัญ ส่งผลให้มิติทางจิตวิญญาณและสุขภาวะองค์รวมของผู้ใช้งานถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย ดังที่ รองศาสตราจารย์ ดร. วันชัย มงคลประดิษฐ์ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้อย่างแหลมคมว่า องค์ความรู้ในคติพุทธซึ่งบรรพบุรุษใช้ในการสร้างเรือนและชุมชนมานับพันปี กลับไม่เคยถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนสถาปัตยกรรมในประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย การ "หลงลืม" รากเหง้าทางปัญญานี้ได้สร้างสภาวะแปลกแยกให้กับผู้คนออกจากสภาพแวดล้อมที่ตนเองอาศัยอยู่
รศ. ดร. วันชัย มงคลประดิษฐ์ สถาปนิกและนักวิชาการผู้คร่ำหวอดในวงการ ได้พบจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อตัดสินใจไปบวชเรียนกับท่านพุทธทาสภิกขุ ณ สวนโมกขพลาราม ประสบการณ์ครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้ท่านเข้าใจโลกและชีวิตอย่างลึกซึ้งขึ้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดคำถามเชิงวิจัยที่กลายเป็นภารกิจสำคัญตลอดมา นั่นคือ "พุทธศาสนาสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นทฤษฎีในการสร้างสรรค์พื้นที่และสถาปัตยกรรมได้หรือไม่"
ในบทความนี้ผมจึงมีเป้าหมายหลักในการถอดรหัสและวิเคราะห์หลักพุทธปรัชญาที่แฝงเร้นอยู่ในการออกแบบพื้นที่ของคนไทยโบราณ
ตั้งแต่ระดับจุลภาคอย่าง "เรือน" ไปจนถึงระดับมหภาคอย่าง "ชุมชนและเมือง"
เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสถาปัตยกรรมในการเป็นเครื่องมือสร้างสภาวะ
"เปี่ยมสุข" ให้แก่ผู้อยู่อาศัย
การจะเข้าใจสถาปัตยกรรมในมิติที่ลึกซึ้งนี้ได้
จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจแก่นแท้ของพุทธปรัชญาอันเป็นรากฐานสำคัญเสียก่อน
หลักพุทธปรัชญา กรอบแนวคิดเพื่อความเข้าใจชีวิตและสรรพสิ่ง
หลักธรรมในพุทธศาสนามิใช่เป็นเพียงคำสอนทางศีลธรรมที่แยกขาดจากชีวิต แต่เปรียบเสมือน "ระบบปฏิบัติการ" (Operating System)
ในการทำความเข้าใจธรรมชาติของความทุกข์ ความจริงแท้ของสรรพสิ่ง
และหนทางสู่การมีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม
ซึ่งเป็นกรอบคิดพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบพื้นที่เพื่อมนุษย์
อริยสัจ 4 โครงสร้างการวินิจฉัยปัญหาและแนวทางการออกแบบเพื่อการพ้นทุกข์
หลักอริยสัจ
4 สามารถถูกมองในฐานะกระบวนการแก้ปัญหาเชิงระบบ (Systematic
Problem-Solving) ที่นำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบได้เป็นอย่างดี
• ทุกข์ คือ "ปัญหา" (Problem Statement) ที่ต้องเผชิญในการออกแบบ
• สมุทัย คือ "สาเหตุของปัญหา" (Root Cause) ซึ่งมีรากมาจากตัณหาหรือความอยาก (กิเลส) และการยึดติดในสิ่งต่างๆ
• นิโรธ คือ "เป้าหมาย" (Objective) ของการออกแบบที่มุ่งนำไปสู่สภาวะสมบูรณ์ ปลอดโปร่ง เบิกบาน และเป็นอิสระจากความทุกข์ทั้งปวง
• มรรค คือ "วิธีการ" (Methodology) หรือแนวทางการออกแบบที่ประกอบด้วยองค์ 8 ซึ่งสรุปรวบยอดได้เป็น ศีล สมาธิ และปัญญา
ไตรลักษณ์และขันธ์ 5 การทลายมายาคติว่าด้วย "ตัวตน" และธรรมชาติของสรรพสิ่ง
หลักไตรลักษณ์ อันได้แก่ อนิจจัง (ความไม่เที่ยง) ทุกขัง (ความเป็นทุกข์ ทนอยู่สภาพเดิมได้ยาก) และ อนัตตา
(ความไม่มีตัวตนที่แท้จริง) คือคุณสมบัติพื้นฐานของธรรมชาติทั้งมวล
การที่สถาปนิกและผู้อยู่อาศัยเข้าใจกฎธรรมชาตินี้
จะช่วยลดการยึดมั่นถือมั่นในรูปแบบที่ตายตัว
และเปิดรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ความเข้าใจนี้เชื่อมโยงโดยตรงมาถึง ขันธ์ 5
ซึ่งเป็นองค์ประกอบของสิ่งที่เรียกว่า "ตัวเรา" อันได้แก่ รูป (กาย) เวทนา
(ความรู้สึก) สัญญา (ความจำได้หมายรู้) สังขาร (ความคิดปรุงแต่ง)
และวิญญาณ (ความรู้แจ้ง) องค์ประกอบทั้งห้านี้ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเกิด อุปทานขันธ์ 5
หรือการเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งเหล่านี้คือ "ตัวกู-ของกู"
อย่างแท้จริง ซึ่ง รศ. ดร. วันชัย ชี้ว่าเป็นที่มาสำคัญของความเครียด
โรคภัยไข้เจ็บ และโรคซึมเศร้าในสังคมปัจจุบัน
อนัตตาและโพธิจิต เป้าหมายสูงสุดแห่งการออกแบบเพื่อชีวิตที่อิสระและเบิกบาน
เรื่องราวของอาจารย์คือพยานว่าการเชื่อมศาสตร์สองแขนง—พุทธวิถีและสถาปัตยกรรม—สามารถสร้างปัญญาใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งพื้นที่กายและจิตใจได้ การเดินทางจากการบวช สู่การไปเรียนต่างประเทศ และการนำหลักธรรมมาประยุกต์ในการออกแบบ ทำให้เกิดกรอบคิดที่เรียกว่า “สถาปัตยกรรมแห่งโพธิจิต” — สถาปัตยกรรมที่สร้างพื้นที่ให้จิตเจริญขึ้น ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นมณฑลแห่งการดำรงชีวิตอย่างสงบและเปี่ยมสุข
ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย AM 1467 KHz
วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 – 19.00 น.
มองกว้าง คิดไกล สร้างใจเปี่ยมสุข #พุทธวิถี ตอน 1
มองกว้าง คิดไกล สร้างใจเปี่ยมสุข #พุทธวิถี ตอน 2
หมายเหตุ รายการอ้างอิง เนื้อหาหลักของบทความนี้ได้รับการสังเคราะห์และวิเคราะห์จากการบรรยายของ รองศาสตราจารย์ ดร. วันชัย มงคลประดิษฐ์ ในหัวข้อ "มองกว้าง คิดไกล สร้างใจเปี่ยมสุข" "รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" EP.81 หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ.
เรียบเรียง/บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย
เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน
เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน
- ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
- ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
- สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...
เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" เราคือใคร?












