ในการแสวงหาธรรมาภิบาลที่เป็นธรรมและหลักปฏิบัติทางจริยธรรมทั่วโลก ดัชนีการรับรู้การคอร์รัปชั่น หรือที่เรารู้จักกันในนาม Corruption Perceptions Index (CPI) ทำหน้าที่เป็นสัญญาณที่ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับขอบเขตของการคอร์รัปชันภายในประเทศ พัฒนาโดย Transparency International ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อต่อสู้กับการทุจริตทั่วโลก CPI เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินและจัดอันดับประเทศตามระดับการรับรู้ของการทุจริตในภาครัฐนะครับ...
ต้นกำเนิด และ วิวัฒนาการ Corruption Perceptions Index (CPI)
ต้นกำเนิดของดัชนีการรับรู้การคอร์รัปชันสามารถย้อนกลับไปถึงปี 1995 หรือ พุทธศักราช 2538 เมื่อองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ตระหนักถึงความจำเป็นในการมีมาตรการที่เป็นมาตรฐานเพื่อวัดระดับการคอร์รัปชั่นทั่วโลก โครงการริเริ่มที่มีวิสัยทัศน์นี้ไม่เพียงแต่มุ่งเป้าไปที่การเปิดโปงการทุจริตเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นการเจรจาและสนับสนุนให้รัฐบาล ภาคธุรกิจ และประชาชนต่อสู้กับการทุจริตร่วมกันอีกด้วย
นับตั้งแต่ก่อตั้ง CPI ได้ผ่านการปรับปรุง เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ Transparency International ใช้ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลที่รวบรวมจากสถาบันระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงมารวมกันเพื่อรวบรวมดัชนี เพื่อให้มั่นใจว่ามีการประเมินที่ครอบคลุมและหลากหลายในทุกแง่มุม
ระเบียบ และ วิธีการ : กายวิภาคของดัชนี CPI
วิธีการเบื้องหลังดัชนีการรับรู้การทุจริตนั้นซับซ้อนพอๆ กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข แนวทางของ Transparency International ผสมผสานการประเมินของผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อสร้างภาพการทุจริตแบบองค์รวมในแต่ละประเทศ
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ : คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ รวมถึงผู้นำทางธุรกิจ นักวิชาการ และนักวิเคราะห์ จะทำการประเมินระดับการรับรู้ของการทุจริตในภาครัฐของแต่ละประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้นำเสนอมุมมองที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการประเมินอย่างรอบด้าน
แหล่งข้อมูล : CPI รวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคารโลก สภาเศรษฐกิจโลก และองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ ข้อมูลนี้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น ความรับผิดชอบของภาครัฐ การบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการทุจริต และประสิทธิภาพของบริการสาธารณะ
ระบบการให้คะแนน : แต่ละประเทศจะได้รับคะแนนในระดับตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดย 0 แสดงถึงรัฐที่มีคอร์รัปชั่นสูง และ 100 แสดงถึงไม่มีการคอร์รัปชั่น จากนั้นคะแนนจะถูกนำมาใช้ในการจัดอันดับประเทศต่างๆ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบและระบุแนวโน้มในช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ผลกระทบ และ การวิพากษ์วิจารณ์
ดัชนีการรับรู้การทุจริต CPI ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเวทีโลก รัฐบาล ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมใช้ดัชนีนี้เพื่อระบุจุดอ่อน ดำเนินการปฏิรูป และติดตามความคืบหน้าในการต่อสู้กับการทุจริต
CPI ไม่เพียงแต่สร้างความตระหนักรู้เท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อจัดการกับการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวไม่ได้ปราศจากการวิพากษ์วิจารณ์ บางคนแย้งว่า CPI อาจทำให้ปัญหาการคอร์รัปชั่นซับซ้อนเกินไป โดยอาศัยการรับรู้ที่อาจเป็นอัตวิสัยอย่างมาก และบางคน แย้งว่าดัชนีอาจไม่จับความแตกต่างในบริบททางวัฒนธรรมและกฎหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความที่ผิดพลาดได้นั่นเองนะครับ
โดยสรุป : การใช้ CPI เพื่อการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าการจัดอันดับจะดึงดูดความสนใจ แต่อำนาจที่แท้จริงของดัชนีการรับรู้การทุจริตอยู่ที่ความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม รัฐบาลและองค์กรต่างๆ มีการใช้ CPI เป็นเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปนโยบาย เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันองค์กร ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความโปร่งใส และมีความรับผิดชอบนั่นเองนะครับผม... ^_^
ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
Bloger : http://www.dolravee.com/
Facebook : https://goo.gl/qNF1ak
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
รายการออนไลน์เพื่อสื่อสารสังคมในภารกิจงานการสร้างสังคมสุจริต
โดยการร่วมมือกัน ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนและเครือข่ายเด็กและเยาวชน คนรุ่นใหม่
ร่วมจัดรายการออนไลน์ "สื่อสร้างสรรค์ ชุมชนเข้มแข็ง"
เพจ & Youtube : สื่อสร้างสรรค์ ชุมชนเข้มแข็ง