เยาวชนการเงินสร้างสรรค์ เดินหน้าขยายผลสู่ชุมชนใหม่

 


โครงการ เยาวชนการเงินสร้างสรรค์จบลงอย่างสวยงาม พร้อมต่อยอดสู่ชุมชนใหม่

ชมรม คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน ร่วมกับ WealthyCats และ H ACADEM ประสบความสำเร็จในการจัดโครงการ เยาวชนการเงินสร้างสรรค์ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนา ทักษะทางการเงินเชิงสร้างสรรค์ ให้กับเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มแม่บ้าน รวมถึงประชาชนทุกเพศวัยในชุมชน โดยมุ่งหวังให้ทุกคนก้าวไกลกว่าการ เก็บออมหรือ ใช้จ่ายอย่างประหยัดสู่การใช้ความรู้ทางการเงินเป็น เครื่องมือในการสร้างคุณค่า ขยายโอกาสใหม่ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมรอบข้าง

จุดเด่นของโครงการ คือการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ผ่าน บอร์ดเกมที่คว้ารางวัลระดับโลก iF Social Impact Prize 2025 ซึ่งยกระดับการเรียนรู้สู่เป้าหมาย SDGs อย่างยั่งยืน ผสมผสานความสนุกกับสาระ ทำให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกคิด ลงมือทำ และเข้าใจหลักการทางการเงินจากประสบการณ์ตรง ภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์

ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล ประธานชมรมคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน
กล่าวถึงเจตนารมณ์ของโครงการว่า

 “การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้ และการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า ความรู้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพูนศักยภาพของคนรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน การดำเนินโครงการครั้งนี้จึงไม่ได้มุ่งเพียงการถ่ายทอดทักษะเท่านั้น แต่ยังเน้นการสร้างความเข้าใจในวิถีชีวิตที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปต่อยอดและสร้างคุณค่าแก่ชุมชนได้อย่างแท้จริง


 โครงการ เยาวชนการเงินสร้างสรรค์ได้รับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้เข้าร่วมและชุมชน ถือเป็นการปูรากฐานสำคัญในการเสริมสร้าง พลเมืองรุ่นใหม่ที่มีความรู้เท่าทันทางการเงิน และพร้อมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืน

สำหรับก้าวต่อไป เตรียมติดตามว่าโครงการ เยาวชนการเงินสร้างสรรค์จะไปสร้างพลังบวกให้กับชุมชนใด ผ่านกลุ่ม เยาวชนการเงินสร้างสรรค์ และ Facebook เพจ คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

 
The “Creative Financial Youth” Project Concludes Successfully and Expands into New Communities

The Quality of Life at My Home Club, in collaboration with WealthyCats and H ACADEM, has successfully completed the “Creative Financial Youth” Project, an initiative dedicated to enhancing creative financial skills among youth, women, housewives, and people of all ages within the community. The project goes beyond traditional concepts of “saving” and “spending wisely,” aiming instead to empower participants to use financial knowledge as a tool to create value, unlock new opportunities, and drive positive change for themselves, their families, and society at large.

A key highlight of the program was the use of an award-winning board game—recipient of the iF Social Impact Prize 2025—as an innovative learning tool. This approach seamlessly blended fun with knowledge, enabling participants to think critically, take action, and gain direct hands-on experience with financial principles, all within a friendly and creative learning environment that aligns with the Sustainable Development Goals (SDGs).

Mr. Dolravee “Kru P’Lee” Phattharakulpimol, President of the Quality of Life at My Home Club, expressed the project’s guiding vision:

“The most valuable investment is the investment in knowledge and in living a balanced life.”

This reflects the strong belief that knowledge not only strengthens the potential of younger generations but also forms the foundation for sustainable quality of life. The project, therefore, was not limited to teaching financial skills but also focused on fostering an understanding of balanced living—economically, socially, and mentally—so that participants can build upon these insights and bring genuine value back to their communities.

 


The “Creative Financial Youth” Project received an enthusiastic response from participants and local communities alike, laying an important foundation for cultivating financially literate citizens who are ready to become a driving force for a sustainable Thai society.

Looking ahead, stay tuned to see which communities the “Creative Financial Youth” Project will inspire next—through its youth network and the Quality of Life at My Home Facebook page.

 

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" พวกเราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

ไร่ไพวัลย์ ปั้นฝันปฐพี เกษตรแห่งอนาคตไทย | คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.99

 


 ไร่ไพวัลย์ ต้นแบบเกษตรปราณีตและวิสัยทัศน์แห่งอนาคตเกษตรไทย 

ไร่ไพวัลย์ ณ จังหวัดลพบุรี ภายใต้การนำของคุณไพวัลย์ แจ่มแจ้ง เป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนของการผสานปรัชญาการทำเกษตรกับนวัตกรรมสมัยใหม่จนเกิดเป็นระบบการผลิตที่มีคุณภาพ แข่งขันได้ และยั่งยืน เอกลักษณ์สำคัญของไร่คือแนวคิด “เกษตรปราณีต” ซึ่งเน้นคุณภาพเหนือปริมาณ การจัดการพื้นที่ขนาดย่อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการออกแบบวงจรการผลิตที่สร้างรายได้หลายช่วงเวลา ทำให้ครอบครัวเกษตรกรสามารถมีรายได้ที่ต่อเนื่องและคาดการณ์ได้



แก่นของเกษตรปราณีตที่ไร่ไพวัลย์สะท้อนผ่านการลงรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกและจัดการต้นพันธุ์ไปจนถึงการจัดการผลผลิต พื้นที่ขนาดเล็กประมาณ 3 ไร่ต่อครอบครัวถูกออกแบบให้ดูแลได้ทั่วถึงและรักษามาตรฐาน คุณไพวัลย์ให้ความสำคัญกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ปลอดโรคและมีวงรอบการเจริญเติบโตสม่ำเสมอ ซึ่งลดความเสี่ยงจากโรคพืชเมื่อเทียบกับการขุดหน่อแบบดั้งเดิมและเอื้อให้การวางแผนตลาดเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในเชิงเทคนิค ไร่ไพวัลย์นำแนวปฏิบัติที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นระบบ ได้แก่ การปลูกกล้วยหอมคาเวนดิสแบบ 3 ต้นต่อหลุมที่ระยะ 3×3 เมตรเพื่อให้ต้นแผ่ออกรับแสงรอบด้าน เทคนิคการใช้เชือกประคองแทนการตัดไม้ค้ำ การตัดปลีครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมโรค และการคลุมถุงประคองเครือเพื่อลดรอยช้ำเพื่อให้รูปทรงหวีสวยงาม นอกจากนี้ ไร่ยังใช้ระบบน้ำหยดและห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิสำหรับการบ่มที่ประมาณ 17–20°C โดยพลังงานทั้งหมดมาจากระบบโซลาร์เซลล์ ทำให้การบ่มและการเก็บรักษาสามารถทำได้อย่างยั่งยืนและลดต้นทุนระยะยาว



เพื่อให้รายได้ไม่ผันผวน ไร่ไพวัลย์ออกแบบการปลูกพืชแซมสร้างรายได้ระหว่างรอผลผลิตหลัก โดยในร่องกลางจะปลูกแตงโมจำนวนมากซึ่งให้ผลผลิตขนาดสม่ำเสมอและสามารถสร้างรายได้ภายใน 65 วัน จากนั้นต่อด้วยการปลูกมะเขือตามออร์เดอร์ของตลาด ทำให้พื้นที่เดียวกันสร้างรายได้ระยะสั้น รายวัน/รายเดือน และรายปีควบคู่กัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ครอบครัวเกษตรกรอยู่ได้และไม่ต้องพึ่งราคาตลาดเพียงอย่างเดียว

โมเดลธุรกิจของไร่ไพวัลย์ยืนอยู่บนแนวคิด “ตลาดนำการผลิต” และหลักการปฏิบัติที่ว่า “คนปลูกไม่ต้องขาย คนขายไม่ต้องปลูก” โดยการทำสัญญารับซื้อ/ตกลงราคาล่วงหน้ากับผู้ซื้อช่วยสร้างความแน่นอนด้านรายได้และหลีกเลี่ยงปัญหาผลผลิตล้นตลาด การแบ่งบทบาทระหว่างผู้ผลิตมืออาชีพและผู้จำหน่ายมืออาชีพช่วยให้เกิดความเชี่ยวชาญในหน้าที่ ลดความเสี่ยง และต้องอาศัยวินัยทั้งสองฝ่ายรวมถึงคุณธรรมในการส่งมอบสินค้าที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค



ด้านความยั่งยืน ไร่ไพวัลย์ไม่ใช้การเผาซากพืช แต่ใช้การคลุมด้วยฟางและปุ๋ยคอก ปล่อยให้หญ้าช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดิน แล้วทำให้หญ้าราบเพื่อให้ย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุ เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างดินและสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ การปลูกไผ่เป็นแนวกันลมยังช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและเพิ่มรายได้เสริม ขณะเดียวกันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% ในทุกกระบวนการเป็นตัวอย่างการลดต้นทุนพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เบื้องหลังความสำเร็จของไร่คือวิสัยทัศน์ที่ใหญ่ว่าเกษตรกรรมต้องสร้างคนและสร้างชาติ การเปิดศูนย์เรียนรู้ให้ผู้สนใจศึกษาฟรี เป้าหมายย่อยๆ เช่น โมเดล 3 ไร่สำหรับครอบครัวเล็ก ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การเกษตรเป็นอาชีพที่ดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้าน และสืบสานเจตนารมณ์จากบรรพบุรุษและแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งสะท้อนผ่านคำพูดของคุณไพวัลย์ว่า “รอยยิ้มของเกษตรกร คือความสำเร็จของผม”



สำหรับผู้ที่เป็นฝ่ายส่งเสริมชุมชนที่ต้องการใช้บทเรียนจากไร่ไพวัลย์เป็นแนวทางปฏิบัติ แนะนำการสนับสนุนเชิงนโยบาย ได้แก่ การตั้งศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อระดับภูมิภาคเพื่อลดต้นทุนต้นพันธุ์ การจัดสินเชื่อสีเขียวสนับสนุนระบบโซลาร์และห้องเย็น การส่งเสริมสัญญาการตลาดล่วงหน้าและกรอบค้ำประกัน/ประกันราคา และการลงทุนในศูนย์ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติที่จะขยายโมเดล 3 ไร่สู่ชุมชน ซึ่งหากดำเนินการร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ไร่ไพวัลย์สามารถเป็นต้นแบบที่เปลี่ยนการเกษตรระดับประเทศให้เป็นเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งและยั่งยืน

 

ประเด็นสำคัญเชิงกลยุทธ์ (Executive highlights)

  • โมเดลธุรกิจ: “ตลาดนำการผลิต” + ข้อตกลงล่วงหน้า = ความแน่นอนด้านราคาและอุปทาน
  • เทคนิคการผลิต: เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue Culture), ปลูก 3 ต้น/หลุม ระยะ 3×3 ม., เทคนิคตัดปลีครึ่งหนึ่ง และการบ่มในห้องเย็น 17–20°C (ใช้พลังงานจากโซลาร์)
  • รายได้แบบหลายชั้น:แตงโมระยะสั้น (ประมาณ 65 วัน), มะเขือตามออเดอร์ เป็นรายได้รายวัน-รายเดือน และกล้วยคาเวนดิสเป็นรายได้หลักประจำปี
  • ความยั่งยืน: พลังงานแสงอาทิตย์ 100%, ไม่เผาซากพืช, ปลูกหญ้า/คลุมดินและใช้ไผ่เป็นแนวกันลม
  • ภารกิจเชิงสังคม: ศูนย์เรียนรู้ไม่คิดค่าใช้จ่าย เป้าดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิด และสืบสานเจตนารมณ์พ่อ/ในหลวง ร.9


ทำไมผู้บริหารบ้านเมืองควรให้ความสนใจ

  • ลดความเสี่ยงเชิงราคาและตลาด — การทำสัญญารับซื้อล่วงหน้าทำให้วงจรการลงทุนของเกษตรกรมีความคาดการณ์ได้ ช่วยลดความผันผวนทางรายได้ของภาคเกษตรชาติ
  • โมเดลขนาดย่อมที่ขยายได้ — แนวคิด 3 ไร่ต่อครอบครัวเป็นโมเดลที่สามารถสนับสนุนด้วยนโยบายสินเชื่อ/อบรม เพื่อสร้างงานให้แรงงานท้องถิ่นและดึงเยาวชนกลับบ้าน
  • คุณภาพเพื่อการส่งออก — การควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้น (Tissue Culture, การคัดเครือ/การบ่ม) ทำให้สินค้าไทยมีความพร้อมแข่งขันเชิงคุณภาพในตลาดต่างประเทศ
  • ความยั่งยืนด้านทรัพยากร — ใช้พลังงานทดแทนและเทคนิคอนุรักษ์ดิน ลดต้นทุนและผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระยะยาว



แนวปฏิบัติที่ควรสนับสนุน (คัดย่อจากไร่ไพวัลย์)

  • การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อได้ต้นพันธุ์ปลอดโรค และวงรอบการเก็บเกี่ยวสม่ำเสมอ
  • การปลูก 3 ต้น/หลุม (ระยะ 3×3 ม.) ให้ต้นแผ่รับแสงรอบด้าน เครือไม่เบียดกัน ทำให้รูปทรงหวีสวย
  • เทคนิคประคองและตัดแต่ง (เชือกแทนไม้ค้ำ, ตัดปลีครึ่งหนึ่ง, ถุงคลุมเครือ) ลดการช้ำและเชื้อรา
  • การจัดการพืชแซมแบบตามออร์เดอร์ (แตงโม/มะเขือ) เพื่อสร้างรายได้ช่วงรอผลผลิตหลัก
  • การใช้โซลาร์เต็มระบบ สำหรับระบบน้ำและห้องเย็นบ่มกล้วย ลดค่าไฟและเป็นจุดขายเชิงสิ่งแวดล้อม

 

ความเสี่ยงที่ต้องบริหาร & แนวทางบรรเทา

  • ความเสี่ยงจากการพึ่งผู้ซื้อรายเดียว/สัญญาไม่เป็นไปตามนัด → กระจายผู้ซื้อ ทำสัญญาที่มีบทลงโทษ/ค้ำประกัน
  • โรคระบาดพืช → ขยายศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ปรับระบบเฝ้าระวัง และมีแผนกักกัน/กำจัดเชื้อ
  • ต้นทุนเทคโนโลยีเบื้องต้นสูง → สนับสนุนผ่านสินเชื่อผลประโยชน์ต่ำ หรือโปรแกรมร่วมลงทุน/สตาร์ทอัพด้านเกษตร
  • การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ → เสริมระบบชลประทานหยด, แนวกันลม (ไผ่) และทำประกันภัยพืชผล

 

ข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับผู้บริหารประเทศ (กระชับ, ปฏิบัติได้)

  • ส่งเสริมสัญญาการตลาดระยะยาว ระหว่างกลุ่มเกษตรกรกับผู้ซื้อ/ผู้ส่งออก พร้อมกรอบค้ำประกันความเสี่ยง
  • สนับสนุนศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อระดับภูมิภาค เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดโรคของต้นพันธุ์
  • เงินทุน/สินเชื่อสีเขียว สำหรับติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และห้องเย็นแบบพึ่งพาตนเอง
  • โปรแกรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (ศูนย์เรียนรู้เชิงปฏิบัติ) ขยายโมเดล 3 ไร่ ให้ครอบครัวเล็ก ๆ ทำได้จริง
  • ชุดมาตรการจูงใจการตลาดต่างประเทศ (มาตรฐานคุณภาพ การรับรอง การส่งเสริมแบรนด์) สำหรับกลุ่มที่ใช้เกษตรปราณีต

 

ตัวชี้วัดความสำเร็จที่แนะนำ (KPIs)

  • % ของผลผลิตที่มีสัญญาการตลาดล่วงหน้า
  • รายได้เฉลี่ยต่อไร่ต่อปี (แยกตามพืช: แตงโม/มะเขือ/กล้วย)
  • ปริมาณ/มูลค่าการส่งออกของกล้วยคาเวนดิสจากกลุ่มตัวอย่าง
  • % การใช้พลังงานจากทดแทน (เป้าหมาย 100%)
  • จำนวนครอบครัวที่นำโมเดล 3 ไร่ ไปปฏิบัติได้จริง
  • อัตราการคืนถิ่นของเยาวชนเพื่อทำเกษตร (เปรียบเทียบปีต่อปี)



สรุปปิดท้าย เรียนรู้จากไร่ไพวัลย์

ไร่ไพวัลย์ไม่ได้เป็นเพียงฟาร์มที่ให้ผลกำไร แต่นำเสนอ แพ็กเกจครบชุด — เทคนิคการผลิตคุณภาพสูง, ระบบพลังงานหมุนเวียน, โมเดลตลาดนำการผลิต และภารกิจสร้างคน—ซึ่งรวมกันเป็นต้นแบบที่ นโยบายรัฐ และ ภาคเอกชน ควรหยิบมาเร่งขยายผล การลงทุนเชิงนโยบายในองค์ประกอบที่ถูกต้อง (พันธุ์, ตลาด, พลังงาน, การฝึกอบรม) จะเปลี่ยนโมเดลนี้จากฟาร์มตัวอย่างให้เป็นกลไกที่ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้จริง

 “รอยยิ้มของเกษตรกร คือความสำเร็จของผม” — คุณไพวัลย์ แจ่มแจ้ง



ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย AM 1467 KHz
วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 – 19.00 น.

 

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" เราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

สร้างเมืองสีเขียวด้วยหัวใจพอเพียง | คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน EP.107

 


เรื่องราวของคุณ สศิดา อาจด่อน หรือ "พี่หลิน" เป็นตัวอย่างอันทรงพลังของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากคนตัวเล็กๆ ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นและจิตอาสา เธอได้แสดงให้เห็นว่าภาวะผู้นำที่แท้จริงไม่ได้มาจากตำแหน่ง แต่มาจากความตั้งใจจะลงมือทำเพื่อส่วนรวม จากพื้นที่ปูนริมคลองที่เคยว่างเปล่า วันนี้ได้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่กินได้ตลอดแนวราวกันตกยาวหลายร้อยเมตร สวนผักแนวตั้งไม่เพียงสร้างความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงความมั่นคงทางอาหารและการปฏิบัติหลักเศรษฐกิจพอเพียงในบริบทเมืองอย่างจับต้องได้



จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงมาจากเรื่องเล็กๆ ใกล้ตัว พี่หลิน สศิดา อาจด่อน เริ่มต้นจากการปลูกผักหน้าบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน หลังจากนั้นเธอได้นำความรู้ที่สะสมจากการเป็นแม่บ้านและครูภูมิปัญญาท้องถิ่น มาประยุกต์ใช้สร้างความร่วมมือในชุมชน ความสำเร็จเล็กๆ กลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดโครงการใหญ่ขึ้น ตั้งแต่การสร้างสวนผักแนวตั้งบนราวกันตก การขยายแปลงเพาะปลูก ไปจนถึงการจัดการน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืน



หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่การนำแนวคิด "ความพอเพียง" มาปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด การสร้างอัตลักษณ์ด้วยสีชมพูบนราวกันตกที่สะท้อนพลังผู้หญิง การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการเชิงปรับตัว ชุมชนไม่ได้ยึดติดกับแผนการที่ตายตัว แต่เรียนรู้และปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ



พี่หลิน สศิดา ไม่ได้หยุดอยู่เพียงมิติสิ่งแวดล้อม เธอยกระดับการพัฒนาไปสู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งรอบด้าน เช่น การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก และการดูแลเยาวชนผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ช่วยหล่อหลอมให้ชุมชนคลองบางน้อยเป็นชุมชนที่น่าอยู่ แข็งแรง และมีส่วนร่วมของทุกคน



ผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นเหล่านี้สะท้อนผ่านรางวัลและการยอมรับหลายด้าน เช่น รางวัลรองชนะเลิศ "ร่วมด้วยช่วยปลูก" โครงการ "สวนชุมชนดีเด่น" และการคัดเลือกเข้าประกวดโครงการ "ชุมชนริมคลอง น่ามอง น่าอยู่" รวมถึงการเสนอชื่อเป็น "ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน" วิสัยทัศน์ต่อไปของเธอคือการพัฒนาชุมชนคลองบางน้อยให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหาร



เรื่องราวของ พี่หลิน สศิดา อาจด่อน สะท้อนบทเรียนสำคัญสำหรับผู้นำชุมชนและนักพัฒนาที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน คือการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัว การยึดมั่นในหลักพึ่งพาตนเอง และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ โดยมีรากฐานอยู่ที่ความจริงใจและความตั้งมั่นในการทำเพื่อส่วนรวม ซึ่งสะท้อนถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ที่ว่า ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้นจึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้ เรื่องราวของพี่หลินจึงเป็นตัวอย่างของผู้หญิงธรรมดาที่ใช้หัวใจแม่และหัวใจพอเพียงพลิกฟื้นชุมชนเล็กๆ ให้กลายเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างภาคภูมิใจ


ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย AM 1467 KHz
วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 – 19.00 น.

 

บทความโดย ครูพี่ลี ดลรวี ภัทรกุลพิมล
โปรดิวเซอร์ รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน รายการที่จะนำคุณไปสัมผัสกับ อัตลักษณ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดดีๆ จากบุคคลต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นพลังสรรค์สร้าง คุณภาพชีวิตทีดี อย่างยั่งยืน

  • ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วิทยุเพื่อการเรียนรู้และเตือนภัย ภาคกลาง AM 1467 KHz ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • ออกอากาศทางช่องทาง Live Streaming ผ่าน Facebook Live "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ทุก วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. - 19.00 น. และ
  • สามารถมารับชมย้อนหลังผ่านทาง Youtube ช่อง "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" ได้อีกช่องทางหนึ่ง...

เพจ & Youtube : รายการคุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน

เกี่ยวกับเรา : รายการ "คุณภาพชีวิตดีที่บ้านฉัน" เราคือใคร?

ป.ล. หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์ บทความนี้ส่งต่อๆ ออกไปสู่กลุ่มผู้คนวงกว้างให้ได้รับคุณประโยชน์... แบ่งปันความรู้ดีๆ กันนะครับ หนึ่งความรู้ หนึ่งความคิดดีๆ อาจจะเปลี่ยน ช่วยเหลือ ผู้คน และสังคมได้นะครับ และที่สำคัญสิ่งเล็กๆ ที่ท่านทำในวันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ ขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ ไว้ ณ โอกาสนี้นะครับ... แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับผม ^_^

บทความที่ได้รับความนิยม